posttoday

นักวิจัยเผย Climate change เป็นเหตุทำสีน้ำทะเลเปลี่ยนไป

15 กรกฎาคม 2566

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature เมื่อวันพุธ เผยสีของมหาสมุทรมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ แต่ยังไม่สามารถประเมินว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไร

งานวิจัยล่าสุดจากทีมนักวิทยาศาสตร์จากศูนย์สมุทรศาสตร์แห่งชาติในสหราชอาณาจักรและสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์( MIT ) ในสหรัฐฯระบุว่า พื้นที่มหาสมุทรมากกว่า 56% ของโลกเปลี่ยนสีจนไม่สามารถอธิบายได้จากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติตามปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาสมุทรเขตร้อนใกล้กับเส้นศูนย์สูตรได้กลายเป็นสีเขียวมากขึ้นในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในระบบนิเวศในทะเลที่น่ากังวลมากขึ้น

 ตามปกติ สีของมหาสมุทรเกิดจากวัสดุที่พบในน้ำชั้นบน เช่น น้ำทะเลสีฟ้าลึกจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่น้อยมาก ในขณะที่สีเขียวหมายถึงมีระบบนิเวศอาศัยอยู่ โดยอาศัยแพลงก์ตอนพืชซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีลักษณะคล้ายพืชซึ่งมีคลอโรฟิลล์ แพลงก์ตอนพืชก่อตัวเป็นห่วงโซ่อาหารที่รองรับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ เช่น คริลล์ ปลา นกทะเล และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล

นักวิจัยเผย Climate change เป็นเหตุทำสีน้ำทะเลเปลี่ยนไป

นักวิจัยติดตามการเปลี่ยนแปลงของสีของมหาสมุทรจากอวกาศโดยติดตามปริมาณแสงสีเขียวหรือสีน้ำเงินที่สะท้อนจากพื้นผิวทะเล พวกเขาใช้ข้อมูลจากดาวเทียม Aqua ซึ่งติดตามการเปลี่ยนแปลงของสีของมหาสมุทรมากว่าสองทศวรรษ และสามารถเลือกความแตกต่างที่ตามนุษย์มองไม่เห็นได้ โดยวิเคราะห์ข้อมูลความแปรผันของสีตั้งแต่ปี 2545 ถึง 2565 จากนั้นใช้แบบจำลองการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อจำลองสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับมหาสมุทร

Stephanie Dutkiewicz นักวิทยาศาสตร์การวิจัยอาวุโสจาก Department of Earth, Atmospheric and Planetary Sciences ของ MIT และศูนย์วิทยาศาสตร์การเปลี่ยนแปลงโลกกล่าวว่า ในขณะที่บางพื้นที่มีแนวโน้มที่จะมีแพลงก์ตอนพืชน้อยลง แต่พื้นที่อื่นๆ ก็จะมีมากขึ้น และเป็นไปได้ว่าทุกส่วนของมหาสมุทรจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเภทของแพลงก์ตอนพืชที่มีอยู่ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าระบบนิเวศเหล่านี้กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างไร

นักวิจัยเผย Climate change เป็นเหตุทำสีน้ำทะเลเปลี่ยนไป

Dutkiewicz กล่าวว่า ระบบนิเวศในมหาสมุทรมีความสมดุลเป็นอย่างดี และการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในแพลงก์ตอนพืชจะส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วห่วงโซ่อาหาร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดทำให้เกิดความไม่สมดุลในการจัดระเบียบทางธรรมชาติของระบบนิเวศ และความไม่สมดุลดังกล่าวจะเลวร้ายลงเมื่อเวลาผ่านไปหากมหาสมุทรของเรายังคงร้อนอยู่ นอกจากนี้ยังจะส่งผลต่อความสามารถของมหาสมุทรในการทำหน้าที่เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนอีกด้วย เนื่องจากแพลงก์ตอนที่ต่างกันจะดูดซับคาร์บอนในปริมาณที่ต่างกัน

ในขณะที่นักวิจัยยังคงทำงานเพื่อแยกแยะความหมายของการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน พวกเขากล่าวว่าสิ่งที่ชัดเจนคือการเปลี่ยนแปลงนั้นได้รับแรงผลักดันจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ 

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"