posttoday

เยลเลนเรียกร้องให้จีนสนับสนุนการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

09 กรกฎาคม 2566

เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนและผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศเมื่อวันเสาร์ระบุ สหรัฐฯ และจีน ในฐานะสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ต้องทำงานร่วมกันเพื่อต่อสู้กับ "ภัยคุกคามที่มีอยู่" ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในระหว่างการเยือนปักกิ่ง เยลเลนกล่าวว่าความร่วมมือก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระหว่างสหรัฐฯ และจีนทำให้เกิดความก้าวหน้าระดับโลก เช่น ข้อตกลงปารีสปี 2558 พร้อมเสริมว่ารัฐบาลทั้งสองต้องการสนับสนุนตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาในขณะที่พวกเขาพยายามบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศ 

“ความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ-จีนอย่างต่อเนื่องในเรื่องการเงินด้านสภาพอากาศเป็นสิ่งสำคัญ” เยลเลนกล่าวในข้อความที่เตรียมไว้ที่โต๊ะกลมด้านสภาพอากาศในกรุงปักกิ่ง

"ในฐานะผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุด 2 รายของโลกและเป็นผู้ลงทุนในพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ที่สุด เราต่างมีความรับผิดชอบและความสามารถร่วมกันในการเป็นผู้นำ"

เยลเลนเรียกร้องให้จีนสนับสนุนการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เมื่อปีที่แล้ว จีนระงับการเจรจากับสหรัฐฯ ชั่วคราวเกี่ยวกับสภาพอากาศ ความมั่นคง และพื้นที่อื่นๆ เพื่อตอบโต้การเยือนไต้หวันของแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในขณะนั้น

จีนซึ่งจัดว่าเป็นประเทศกำลังพัฒนาโดยองค์การสหประชาชาติ ได้กล่าวมานานแล้วว่าเป็นความรับผิดชอบของประเทศที่พัฒนาแล้วในการช่วยประเทศยากจนจ่ายเงินเพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

เมื่อพิจารณาจากขนาดแล้ว ความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และจีนถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความพยายามระหว่างประเทศในการหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เยลเลนกล่าวว่าการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการต่างๆที่ดำเนินการอยู่ ควรได้รับการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล พร้อมเสริมว่าการสนับสนุนของปักกิ่งต่อสถาบันพหุภาคีด้านสภาพอากาศที่มีอยู่ เช่น กองทุน Green Climate Fund (GCF) และ Climate Investment Funds ร่วมกับวอชิงตันและสถาบันอื่นๆ จะสามารถเพิ่มผลลัพธ์ในเชิงบวกได้

เยลเลนเรียกร้องให้จีนสนับสนุนการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า สำหรับการเติมกองทุนนั้น ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวว่า สหรัฐฯ จะจัดหาเงินอีก 1 พันล้านดอลลาร์ โดยจีนยินดีเข้าร่วมกับสหรัฐฯ ในการสนับสนุนรอบการให้ทุนสำหรับ GCF ในเดือนกันยายน 

GCF เป็นกองทุนภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ซึ่งช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาด้วยแนวปฏิบัติในการปรับตัวและบรรเทาผลกระทบเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นอกจากนี้ นิโคลัส เบิร์นส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน กล่าวที่ประชุมด้วยว่า เขารอคอยการมาเยือนของจอห์น เคอร์รี ทูตด้านสภาพอากาศของสหรัฐฯ หลังจากจีนได้เชิญเขาให้ไปเยือนในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดรองจากยุโรปสำหรับกองทุนด้านสภาพอากาศ ซึ่งแซงหน้าสหรัฐฯ เนื่องจากกองทุนในจีนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวตั้งแต่ปี 2564 เป็น 46,700 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของบริษัทวิจัย Morningstar

แต่ธนาคารโลกกล่าวว่าเมื่อปีที่แล้ว จีนต้องการเงินลงทุนเพิ่มเติมถึง 17 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในภาคพลังงานและการขนส่ง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2560 ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการลงทุนภาคเอกชน

“สิ่งสำคัญอีกอย่างคือเราต้องสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทั่วทั้งเศรษฐกิจไปสู่ค่าสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งจำเป็นต้องรวมถึงภาคเอกชนด้วย” เยลเลนกล่าว พร้อมย้ำว่าการลงทุนที่สอดคล้องกับสภาพอากาศจะต้อง “ทำงานร่วมกันได้” กับทั้ง ระบบเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและจีน

เยลเลนกล่าวว่าเธอตั้งตารอที่จะรับฟังคำแนะนำจากคณะทำงานในการประชุมรัฐมนตรีคลัง Group of 20 ในอินเดีย ซึ่งรวมถึงคณะทำงานการเงินที่ยั่งยืนซึ่งมีสหรัฐอเมริกาและจีนเป็นประธานร่วม

“นี่เป็นตัวอย่างที่ดีของสิ่งที่ความร่วมมือทวิภาคีของเราสามารถบรรลุได้ และเราควรต่อยอดในความร่วมมือพหุภาคีด้วย”