ประชาชนสวิตเซอร์แลนด์เตรียมโหวตให้เพิ่มอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำ
ชาวสวิสจะลงมติในสุดสัปดาห์นี้ว่าจะขึ้นภาษีธุรกิจเป็น 15% จากค่าเฉลี่ย 11% เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราภาษีขั้นต่ำทั่วโลกหรือไม่ แม้ว่าจะมีการขึ้นภาษีธุรกิจในประเทศ แต่ก็ยังมีระดับภาษีนิติบุคคลที่ต่ำที่สุดในโลก
ในปี 2564 เกือบ 140 ประเทศรวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ได้ลงนามในข้อตกลงขององค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทขนาดใหญ่จ่ายอัตราภาษีขั้นต่ำที่ 15% เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงภาษีโดยการโอนกำไรไปยังประเทศที่มีภาษีต่ำกว่า
การเพิ่มภาษีขึ้นนี้คาดว่าจะระดมทุนได้ 220,000 ล้านดอลลาร์ทั่วโลกสำหรับรัฐบาลที่ติดขัดเรื่องเงินสดหลังจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และการดิ้นรนเพื่อจัดการกับวิกฤตค่าครองชีพ
รัฐบาลสวิสสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนี้ และจากผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิจัย GFS Bern พบว่า 73% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะสนับสนุนการเคลื่อนไหวภายใต้ระบบประชาธิปไตยทางตรงของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการออกกฎหมายจะให้ประชาชนลงคะแนนเสียง
สวิตเซอร์แลนด์เป็นที่ตั้งสำนักงานของบริษัทต่างชาติราว 2,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงกูเกิล รวมถึงบริษัทข้ามชาติสัญชาติสวิสอีก 200 แห่ง เช่น เนสท์เล่ ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษี
โดยแต่ละรัฐใน 26 รัฐของสวิตเซอร์แลนด์สามารถกำหนดอัตราภาษีนิติบุคคลของตนเองได้ แต่รัฐบาลกลางจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทต่างๆ จ่าย 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเพิ่มรายได้จากภาษีได้ถึง 2.5 พันล้านฟรังก์สวิส (2.76 พันล้านดอลลาร์) แต่นั่นยังคงทำให้สวิตเซอร์แลนด์เรียกเก็บภาษีนิติบุคคลในระดับประมาณครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ เช่น เยอรมนีและญี่ปุ่น และมีอัตราเฉลี่ยที่ประมาณ 21% ในประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรป
ภายใต้โครงการของ OECD หากบริษัทต่างๆ จ่ายอัตราภาษีต่ำกว่า 15% ในประเทศใดประเทศหนึ่ง รัฐบาลในประเทศของตนสามารถ "เพิ่ม" ภาษีของตนให้ถึงระดับนั้น ขจัดข้อได้เปรียบของกำไร
รายละเอียดของกฎหมายใหม่นี้ 75% ของเงินพิเศษจะกลับไปที่มณฑลซึ่งจะอนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นใช้รายได้พิเศษจากเงินอุดหนุนเพื่อดึงดูดและรักษาธุรกิจไว้ มาตรการภายใต้การหารือ ได้แก่ การดูแลเด็ก ทุนวิจัย และการฝึกอบรมเพิ่มเติม ส่วนอีก 25% จะนำส่งให้กับรัฐบาลกลาง
ทั้งนี้ Swiss Holdings ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป็นตัวแทนของบริษัทข้ามชาติ 62 แห่งในสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึง Nestle, Johnson & Johnson และ IKEA สนับสนุนนโยบายภาษีขั้นต่ำนี้ เนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณไปยังประชาคมระหว่างประเทศว่าสวิตเซอร์แลนด์ไม่ควรถูกมองว่าเป็นสวรรค์ด้านภาษีอีกต่อไป แม้ว่าจะทำให้สูญเสียเสน่ห์ด้านภาษีต่ำไปบางส่วนก็ตาม


