ก.ล.ต. สหรัฐฟ้อง Coinbase หนึ่งวันหลังจากฟ้อง Binance

คดีความในวันอังคารเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ ก.ล.ต. ฟ้อง Binance การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงผู้ก่อตั้ง Changpeng Zhao

ทั้งสองกรณีเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันของ Gary Gensler ประธาน ก.ล.ต. เพื่อยืนยันเขตอำนาจศาลเหนือcrypto และให้ความคุ้มครองที่มากขึ้นแก่นักลงทุนที่ซื้อขายสกุลเงินเสมือนจริง

“ความล้มเหลวของ Coinbase ทำให้นักลงทุนขาดการป้องกันที่สำคัญ รวมถึงกฎที่ป้องกันการฉ้อโกงและการจัดการ การเปิดเผยที่เหมาะสม การป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และเป็นการตรวจสอบตามปกติ” Gensler กล่าวในทวีต

Coinbase ไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นในทันที หุ้นของบริษัทแม่อย่าง Coinbase Global Inc ซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้ด้วย ร่วงลง 17.1% ในการซื้อขายล่วงหน้า

ในการร้องเรียนที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางแมนฮัตตัน ก.ล.ต. กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2019 Coinbase ทำเงินอย่างน้อยหลายพันล้านดอลลาร์ด้วยการจัดการธุรกรรม cryptocurrency ในขณะที่หลีกเลี่ยงข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลเพื่อปกป้องนักลงทุน

คดีดังกล่าวกล่าวถึงหลายแง่มุมของธุรกิจของ Coinbase รวมถึง Coinbase Prime ซึ่งกำหนดเส้นทางคำสั่งซื้อ Coinbase Wallet ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงสภาพคล่องได้ และบริการเดิมพัน Coinbase Earn

ในโปรแกรมการเดิมพัน Coinbase จะรวมสินทรัพย์ crypto และใช้มันเพื่ออำนวยความสะดวกในกิจกรรมบนเครือข่าย blockchain เพื่อแลกกับ "รางวัล" ที่ให้ลูกค้าหลังจากรับค่าคอมมิชชั่น

ก.ล.ต. กล่าวว่า Coinbase "ตระหนักดี" ว่าธุรกิจของตนอยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง แต่เพิกเฉย

“คุณไม่สามารถเพิกเฉยต่อกฎได้เพราะคุณไม่ชอบหรือเพราะคุณต้องการกฎที่แตกต่างออกไป” Gurbir Grewal หัวหน้าหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของ SEC กล่าวในแถลงการณ์

ในกรณีของ Binance ก.ล.ต. กล่าวหาว่าการแลกเปลี่ยนปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น การโอนเงินของลูกค้าการรวมสินทรัพย์อย่างไม่เหมาะสม ความล้มเหลวในการกันลูกค้าผู้มั่งคั่งในสหรัฐฯ ออกจากแพลตฟอร์ม และทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับการกำกับดูแล ส่งผลให้นักลงทุนได้ถอนเงินประมาณ 780 ล้านดอลลาร์จากการแลกเปลี่ยน crypto Binance ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา  หนึ่งวันหลังจากการแลกเปลี่ยน crypto ที่ใหญ่ที่สุดในโลกถูกฟ้องโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ