นโยบายไม่เอื้อ โครงการพลังงานหมุนเวียนของจีนส่อแววสะดุด

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนถือเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำในการผลักดันกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน ซึ่งในปัจจุบันพลังงานหมุนเวียนของจีนคิดเป็น 31.3% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศ

สำนักงานพลังงานแห่งชาติของจีน (NEA) กล่าวว่า ในปี 2022 จีนได้ติดตั้งพลังงานหมุนเวียนไปแล้ว 152 กิกะวัตต์ (GW) หรือ 76.2% ของกำลังการผลิตพลังงานใหม่ทั้งหมด ซึ่งจำนวนนี้เทียบเท่ากับกำลังการผลิตพลังงานทั้งหมดของนอร์เวย์

อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้อุตสาหกรรมนี้ต้องแข่งขันกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการใช้ประโยชน์จากที่ดินในอุตสาหกรรมการเกษตร ทำให้การได้สิทธิ์เพื่อติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในที่ดินต่างๆทำได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ

หวัง ป๋อฮวา ประธานกิตติมศักดิ์ของสมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์จีน ระบุว่า รัฐบาลท้องถิ่นได้นำนโยบายของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับการใช้ที่ดินมาดำเนินการในลักษณะ ‘แบบเดียวใช้ได้หมด (one-size-fits-all)’ พร้อมเสริมว่าหากยังไม่มีการปรัรบปรุงนโยบายนี้ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ใหม่ในภาคตะวันออกและภาคกลางของจีนจะได้รับผลกระทบ

จีนต้องเร่งขจัดอุปสรรคในการก่อสร้างและส่งเสริมการบูรณาการกับโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานเพื่อพัฒนาพลังงานจากแสงอาทิตย์และพลังงานลมจะเป็นไปได้อย่างทันเวลา

ขณะที่ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้คำมั่นว่าจะทำให้กำลังการผลิตพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดของจีนอยู่ที่อย่างน้อย 1,200 กิกะวัตต์ และจะจำกัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2030 ซึ่งในขณะนี้กำลังวางแผนที่จะสร้าง พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม

ประเทศกำลังวางแผนที่จะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 450 กิกะวัตต์ และติดตั้งพลังงานลมในเขตโกบีและพื้นที่ทะเลทรายอื่นๆ

ทั้งนี้ จีนตั้งเป้าให้ สัดส่วนของกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมีสัดส่วนมากกว่า 50% ภายในปี 2025