posttoday

จีนเร่งหานโยบายเพิ่มอัตราการเกิด หลังประชากรลดฮวบในรอบ 60 ปี

13 กุมภาพันธ์ 2566

ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนครอบครัวของจีนระบุว่า จากจำนวนประชากรของประเทศที่ลดลงจนอาจเป็นภัยคุกคาม ทางการจีนควรเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนอยากสร้างครอบครัวเพื่อเพิ่มอัตราการเกิดให้มากขึ้น

ปีที่ผ่านมา จำนวนประชากรจีนแผ่นดินใหญ่ลดลงกว่า 850,000 คน  ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1961 จนทำให้ขณะนี้ประชากรจีนอยู่ที่ 1.42 พันล้านคน และในอนาคตอาจตามหลังอินเดียฐานะประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งแนวโน้มการลดลงของจำนวนประชากรย่อมมีผลกระทบต่อโลกและเศรษฐกิจ

หวัง เป่ยอัน รองผู้อำนวยการสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศจีน กล่าวว่า รัฐควรสร้างแรงจูงใจด้านภาษีให้มากขึ้นตามสถาบันครอบครัวซึ่งสามารถกระตุ้นให้อัตราการเกิดเพิ่มขึ้นได้

หวังยังกล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของคนรุ่นใหม่ซึ่งไม่ต้องการมีลูกอีกต่อไป โดยเขาระบุว่ารัฐควรสร้างแรงจูงใจให้มากกว่านี้ ทั้งสวัสดิการการรักษาพยาบาล ประกันสังคม หรือสิ่งอื่นใดที่จะกระตุ้นให้ประชากรอยากสร้างครอบครัวมากขึ้น

จีนเร่งหานโยบายเพิ่มอัตราการเกิด หลังประชากรลดฮวบในรอบ 60 ปี

ทางการจีนเริ่มกำหนดนโยบายลูกคนเดียวตั้งแต่ปี 1980 - 2015  เพื่อควบคุมจำนวนประชากร แต่ด้วยตัวเลขที่ลดลงอย่างมาก ทางการจึงต้องพยายามหาวิธีเพื่อเพิ่มอัตราการเกิดของคนในประเทศ

“ในประเทศจีน อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นมารดายังอยู่ในระดับต่ำมาก หากรัฐไม่พยายามปลูกฝังในเรื่องดังกล่าว ความต้องการที่จะแต่งงาน มีลูก รวมถึงการเพิ่มระดับการเจริญพันธุ์จะเป็นเรื่องยากมาก” หวังกล่าว

ตามรายงานของ CCTV อายุเฉลี่ยของผู้หญิงที่แต่งงานครั้งแรกในปี 1980 เฉลี่ยที่ 22 ปี ขณะที่ในปี 2020 ค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 26.3 ปี ส่วนค่าเฉลี่ยอายุของการมีบุตรคนแรกอยู่ที่ 27.2 ปี 

หวังชี้ไปที่การสำรวจในปี 2021 โดยศูนย์วิจัยประชากรและการพัฒนาของจีน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 35 ปี มีไม่ถึง 70% ที่คิดว่าชีวิตจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อมีลูกเท่านั้น