‘งา’ ต้องโชว์ในฉลากอาหาร หลัง FDA เตือน มีสารก่อภูมิแพ้

คณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้พิจารณาเพิ่ม ‘งา’ ลงในลิสต์อาหารที่มีสารก่อภูมิแพ้หลัก จากเดิมที่มีเพียง 8 ชนิด ได้แก่ นม ไข่ ปลา สัตว์มีกระดอง ถั่วที่มีฝักตามรากใต้ดิน ถั่วจากพืชยืนต้น ข้าวสาลี และถั่วเหลือง

ผลที่ตามมาจากการเพิ่มงาลงในลิสต์อาหารที่มีสารก่อภูมิแพ้คือ ร้านอาหารต้องแสดงข้อมูลเมนูที่มีส่วนผสมของงา ขณะที่ผลิตภัณฑ์ด้านอาหารอื่นๆต้องแสดงข้อมูลส่วนผสมลงบนฉลาก เพื่อเตือนผู้บริโภคที่อาจมีอาการแพ้ตามข้อกำหนดในการติดฉลากและสารที่เป็นสาเหตุของการแพ้อาหาร โดยเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2023

ก่อนหน้านี้ข้อมูลส่วนผสมบนฉลากจะแสดงว่ามีงาเป็นส่วนผสมก็ต่อเมื่อมีการใช้ทั้งเมล็ด หากใช้เป็นเครื่องปรุงหรือผสมในเครื่องเทศจะไม่มีรายละเอียดแจ้ง 

 อาการแพ้งาสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกช่วงวัย โดยอาจแสดงอาการไอ คันคอ อาเจียน ท้องเสีย รู้สึกแสบร้อนริมฝีปาก หายใจติดขัด ไปจนถึงความดันโลหิตลดลง ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีชาวอเมริกันกว่า 1.6 ล้านรายที่มีอาการแพ้งาจนอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต และที่ผ่านมางาเป็นวัตถุดิบที่ถูกนำมาใช้ในการประกอบอาหารหลายชนิดแต่ไม่เคยถูกจัดอยู่ในลิสต์อาหารที่มีสารก่อภูมิแพ้

กฎหมายใหม่ที่บังคับให้ต้องแสดงข้อมูลหากมีงาเป็นส่วนผสมในอาหาร ถือเป็นหนึ่งในชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่สำหรับคอมมูนิตี้ผู้แพ้อาหาร

ทั้งนี้ FDA กล่าวในแถลงการณ์ช่วงกลางเดือนธันวาคม 2022 ว่าบรรดาอาหารที่วางบนชั้นขายปลีกก่อนเริ่มปี 2023 ไม่จำเป็นต้องถูกนำเอาจากชั้นวาง อาหารบางชนิดอาจยังไม่มีฉลากสารก่อภูมิแพ้ในวันที่มีกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ และไม่จำเป็นต้องนำไปติดฉลากใหม่เพื่อประกาศว่ามีงาเป็นส่วนผสม ซึ่งอาจใช้เวลาราว 3-6 เดือนกว่าอาหารเหล่านี้จะถูกจำหน่ายจนหมดสต๊อก ขณะที่บริษัทด้านอาหารหลายเจ้ากำลังเริ่มผลิตอาหารล็อตใหม่ซึ่งฉลากระบุว่ามีงาเป็นส่วนผสม