ญี่ปุ่นทุ่มงบประมาณขยายกองทัพครั้งใหญ่สุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

จากความตึงเครียดในภูมิภาคและการรุกรานของรัสเซียทำให้เกิดความกลัวสงคราม แผนห้าปีล่าสุดของญี่ปุ่นจะทำให้ประเทศนี้กลายเป็นผู้ใช้จ่ายทางทหารรายใหญ่เป็นอันดับสามของโลกต่อจากสหรัฐอเมริกาและจีนโดยพิจารณาจากงบประมาณในปัจจุบัน

นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ซึ่งกล่าวถึงญี่ปุ่นและประชาชนของญี่ปุ่นว่าเป็น 'จุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์' กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของงบประมาณครั้งนี้คือ 'คำตอบต่อความท้าทายด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่เราเผชิญ' 

รัฐบาลญี่ปุ่นกังวลว่ารัสเซียได้สร้างแรงกระตุ้นให้จีนโจมตีไต้หวัน และคุกคามเกาะญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อขัดขวางการจัดหาเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง และจำกัดเส้นทางเดินเรือขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง

"'การรุกรานยูเครนของรัสเซียเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่ห้ามใช้กำลังและได้สั่นสะเทือนรากฐานของกติกาสากลอย่างร้ายแรง" 

เอกสารยุทธศาสตร์ระบุว่าปักกิ่งยังไม่ได้ตัดการใช้กำลังเพื่อควบคุมไต้หวัน และญี่ปุ่นสัญญาว่าจะให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆที่มีความคิดแบบเดียวกันเพื่อยับยั้งภัยคุกคามต่อระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งขึ้น

แผนของนายก คิชิดะ จะตั้งงบประมาณรายจ่ายมากกว่า 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในช่วง 5 ปีซึ่งเกินขีดจำกัดการใช้จ่าย 1% ที่เคยเป็นมาตั้งแต่ปี 1976 ซึ่งจะทำให้งบประมาณของกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นเป็นประมาณหนึ่งในสิบของการใช้จ่ายของภาครัฐในระดับปัจจุบัน และจะทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใช้จ่ายทางทหารมากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและจีน ตามงบประมาณปัจจุบัน 

การใช้จ่ายดังกล่าวจะทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางทหารของญี่ปุ่น เช่น มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ (Mitsubishi Heavy Industries -MHI) ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่การพัฒนาขีปนาวุธระยะไกลตัวใหม่ของญี่ปุ่น

นอกจากนี้ MHI จะสร้างเครื่องบินขับไล่ไอพ่นลำต่อไปของญี่ปุ่นร่วมกับบริษัท BAE Systems PLC (BAES)และลีโอนาร์โด สปา (LDOF)ในโครงการร่วมกันระหว่างญี่ปุ่น อังกฤษและอิตาลีที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

โตเกียวได้จัดสรรเงิน 5.6 พันล้านดอลลาร์สำหรับโครงการป้องกันประเทศระยัห้าปี โดยบริษัทต่างชาติจะได้รับประโยชน์เช่นกัน เนื่องจากญี่ปุ่นต้องการให้ขีปนาวุธที่ยิงจากเรือแบบ Tomahawk ของสหรัฐฯ ที่ผลิตโดยRaytheon Technologies เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังป้องกันใหม่ 

รายการช้อปปิ้งทางทหารของญี่ปุ่นอื่นๆในช่วงห้าปีข้างหน้า ได้แก่ ขีปนาวุธสกัดกั้นสำหรับการป้องกันขีปนาวุธ, โดรนโจมตีและเพื่อการสำรวจ, อุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียม, เครื่องบินรบ Lockheed Martin F-35, เฮลิคอปเตอร์, เรือดำน้ำ, เรือรบและเครื่องบินเจ็ทขนส่งขนาดใหญ่

เพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอกับค่าใช้จ่ายทางทหารดังกล่าว คิชิดะได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าจะเพิ่มภาษียาสูบ บริษัท และภาษีเงินได้จากการฟื้นฟูภัยพิบัติ แต่เนื่องจากการต่อต้านการขึ้นภาษีภายในพรรคเสรีประชาธิปไตยยังคงแข็งแกร่ง ผู้นำญี่ปุ่นจึงยังไม่ได้กล่าวว่าเมื่อใดเขาจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราภาษีตามแผนดังกล่าว