posttoday

ไล่ออก 2 พิธีกรจีน ปมเหยียดเพศแบรนด์แอมบาสเดอร์เครื่องสำอางไทย

03 พฤศจิกายน 2564

ตอกย้ำความตึงเครียดอุตสาหกรรมความบันเทิงจีน เมื่อ 'หนุ่มหน้าหวาน' ได้รับความนิยมแต่อีกด้านยังไม่เปิดใจ

South China Morning Post รายงานกรณีที่เครื่องสำอางแบรนด์ไทยยุติสัญญากับ Fanyin Culture เอเจนซี่จีน หลังจากที่พิธีกร 2 คนใช้คำพูดเชิงเหยียดเพศกับหลิวอวี่ (Liu Yu) นักร้องและนักแสดงจากวงบอยแบนด์ INTO1 ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเครื่องสำอาง

รายงานระบุว่าหลังจากที่หลิวอวี่ได้ปรากฏตัวในรายการเพื่อมาโฆษณาให้กับแบรนด์ไปแล้วนั้น ก็มีแฟนๆ เข้ามาถามไถ่ว่าเขาจะได้มาออกรายการอีกครั้งหรือไม่ แต่พิธีกรทั้ง 2 ซึ่งคือ เหมิงเหมิง (Mengmeng) และเสี่ยวเว่ย (Xiaowei) กลับตอบว่า "คนนั้นไม่ใช่ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ พวกเราไม่รู้จักเขาหรอก"

ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากเนื่องจากผู้ชมมองว่าพิธีกรใช้คำพูดที่ดูถูกและไม่ให้เกียรติหลิวอวี่ที่มาปรากฏตัวในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเครื่องสำอาง

"มันเป็นเรื่องของจรรยาบรรณ พิธีกรพยายามขายเครื่องสำอางแต่กลับใช้คำพูดที่สร้างความเสื่อมเสียแบบนี้ต่อหน้าผู้บริโภคเนี่ยนะ" "ถ้าเราไม่รู้จักเขาทำไมเราถึงไปตัดสินว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายหรือผู้หญิง แต่ละคนมีความงามที่แตกต่างกันได้" ส่วนหนึ่งของความคิดเห็นจำนวนมากบน Weibo

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แบรนด์เครื่องสำอางได้ออกมาขอโทษผ่านทาง Weibo พร้อมกล่าวตำหนิ Fanyin Culture บริษัทเอเจนซี่ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบพิธีกรทั้งสอง ตลอดจนยุติสัญญากับบริษัท และให้คำมั่นว่าจะระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต

"คุณหลิวอวี่มีแต่ความภักดี ซื่อสัตย์ และกระตืนรือร้นในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทางบริษัทชื่นชมหลิวอวี่เสมอมา เราต้องขออภัยต่อหลิวและแฟนคลับของเขาสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น" บริษัทกล่าว

ด้าน Fanyin ก็ได้กล่าวขอโทษต่อบริษัทเครื่องสำอางและหลิวอวี่ พร้อมประกาศว่าพิธีกรทั้งสองจะถูกไล่ออกทันที

กรณีดังกล่าวตอกย้ำถึงความตึงเครียดในอุตสาหกรรมความบันเทิงของจีน ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา "หนุ่มหน้าหวาน" หรือการที่ดาราชายแต่งหน้าสวยคล้ายผู้หญิง ได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศจีน ขณะที่ทางการจีนประกาศจัดระเบียบวงการบันเทิง โดยหนึ่งในนั้นคือการห้ามไม่ให้คนดังเพศชายแสดงพฤติกรรมเหมือนผู้หญิง

ทั้งนี้ รายงานระบุว่าความนิยมดังกล่าวมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นที่เปลี่ยนไป หรือแรงผลักดันจากอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ที่ให้บรรดาไอดอลแต่งหน้าเพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคเกิดแรงจูงใจในการใช้สินค้าไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ค่านิยมใหม่นี้ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งเนื่องจากอีกด้านหนึ่งมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อค่านิยมทางสังคมแบบดั้มเดิมของจีน ซึ่งทางการจีนก็แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับค่านิยมใหม่นี้เช่นกัน

Photo by into1_liuyu_

 

ข่าวล่าสุด

ชายแดนไทย–กัมพูชาปะทะเดือด เกมอำนาจยืดเยื้อข้ามปีใหม่