ใครๆ ก็อยากเป็น สว. ทายาทโชกุนลุยสมรภูมิการเมือง

ทายาทโชกุนโตกุงะวะ ลุยสมรภูมิการเมืองขอเป็น สว. เปิดโปรไฟล์สายเลือดนักรบซามูไรที่กำลังหมายมั่นปั้นมือที่จะเข้าสู่วงการการเมืองญี่ปุ่น

โตกุงะวะ อิเอฮิโระ ทายาทรุ่นที่ 19 ของตระกูลโชกุนโตกุงะวะ ที่เคยปกครองญี่ปุ่นในยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603 - ค.ศ. 1868) เตรียมกระโจนเข้าสู่สมรภูมิการเมือง นับเป็นทายาทของตระกูลโชกุนคนแรกๆ ที่จะเข้าสู่วงการการเมืองยุคใหม่อย่างเต็มตัว หลังจากที่ตระกูลโตกุงะวะสูญสิ้นอำนาจไปหลังการฟื้นฟูเมจิเมื่อ 100 กว่าปีก่อน

โตกุงะวะ อิเอฮิโระ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารมูลนิธิที่ระลึกโตกุงะวะ และเป็นนักบวชประจำศาลเจ้าคุโนซัน โทโชกุ ในเมืองชิซุโอกะ อันเป็นศาลเจ้าที่อุทิศแก่ดวงวิญญาณของโตกุงะวะ อิเอยาสึ โชกุนคนแรกของตระกูลนี้

นอกจากนี้ อิเอฮิโระ วัย 54 ปี ยังมีอาชีพที่เกี่ยาวข้องกับการเมืองทางอ้อม โดยเป็นนักวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมือง และในการเลือกตั้งสมาชิกราชมนตรีสภา หรือวุฒิสภาของญี่ปุ่นเขตชิซุโอกะ เขาจะเป็นตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์รัฐธรรมนูญ (CDP) เข้าชิงชัยในสนามนี้ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมาก เพราะเก้าอี้ส่วนใหญ่ในสภาสูงเป็นของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) โดยไม่มีเก้าอี้ของพรรค CDP เลย 

โตกุงะวะ อิเอฮิโระ

ที่สำคัญคือ เมืองชิซุโอกะ ที่เป็นสนามเลือกตั้งประเดิมวิถีการเมืองของโตกุงะวะ อิเอฮิโระ ยังเคยเป็นเมืองที่บรรพบุรุษของเขาเคยเติบโตและสร้างความเกรียงไกรมาก่อน นั่นคือ โตกุงะวะ อิเอยาสึ ซึ่งเคยครอบครองปราสาทซุนปุ ในเมืองแห่งนี้ และใช้ปราสาทซุนปุเป็นที่ตั้งของอีกหนึ่งศูนย์กลางของรัฐบาลโชกุนยุคเอโดะ ดังนั้นการช่วงชิงเขตเลือกตั้งเมืองชิซุโอกะจึงมีความหมายกับทายาทรุ่นที่ 19 เป็นอย่างมาก เพราะเท่ากับเป็นการแย่งชิงดินแดนที่บรรพบุรุษของเขาเคยสร้างตระกูลให้ยิ่งใหญ่ขึ้นมา

ตระกูลโตกุงะวะ เคยเป็นตระกูลซามูไรหรือชนชั้นนักรบที่มีอิทธิพลอย่างมากในยุคมูโรมาจิ (ค.ศ. 1336 - ค.ศ. 1568) หลังจากทำศึกแย่งชิงอำนาจกับขุนศึกซามุไรตระกูลอื่นๆ ในที่สุดตระกูลโตกุงะวะก็สามารถก้าวขึ้นมากุมอำนาจได้เบ็ดเสร็จในสมัยของโตกุงะวะ อิเอยาสึ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโชกุน หรือตำแหน่งเทียบเท่ากับนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลทหาร (เรียกว่ารัฐบาลบากุฟุ) ครองอำนาจเบ็ดเสร็จในฐานะผู้นำประเทศ และสืบทอดอำนาจมายังลูกหลานตระกูลโตกุงะวะจากรุ่นสู่รุ่น โดยมีคนในตระกูลโตกุงะวะดำรงตำแหน่งโชกุนถึง 15 คน ในเวลา 264 ปีของยุคเอโดะ จนกระทั่งถูกกลุ่มปฏิรูปล้มล้างอำนาจ และคืนพระราชอำนาจการปกครองประเทศให้กับสมเด็จพระจักรพรรดิในยุคเมจิ

หลังจากเข้าสู่ยุคเมจิ ที่ญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคใหม่ มีการปกครองตามระบอบรัฐธรรมนูญ และยกเลิกระบบศักดินานักรบ คนในตระกูลโตกุงะวะก็หมดสิ้่นอิทธิพลทางการเมือง แต่ลูกหลานของตระกูลนี้ยังคงสืบทอดมรดกและชื่อเสียงของตระกูลที่มียาวนานนับพันปีต่อไป

มัตสึไดระ คาตาโมริ

สำหรับต้นตระกูลโตกุงะวะ สืบสายมาจากสมเด็จพระจักรพรรดิเซวะ (ค.ศ. 850 - ค.ศ. 881) ผ่านทางเจ้าชายซาดาซุมิ จากนั้นลูกหลานของเจ้าชายที่ไม่ได้เป็นราชนิกูลแล้วจะใช้ชื่อตระกูลว่า มินาโมโตะ ต่อมาสายสกุลเปลี่ยนชื่อเป็นตระกูลนิตตะ และต่อมาเปลี่ยนเป็นตระกูลมัตสึไดระ จนกระทั่งถึงสมัยของอิเอยะสึ ได้เปลี่ยนนามสกุลตัวเองจากมัตสึไดระ มาเป็นโตกุงะวะ ดังนั้นตระกูลมัตสึไดระกับโตกุงะวะจึงเป็นตระกูลเดียวกัน

นอกจากนี้ สายสกุลฝ่ายมารดาของโตกุงะวะ อิเอฮิโระ คือมัตสึไดระ คาตาโมริ ซึ่งเป็นนักรบผู้ครองแคว้นไอซุคนสุดท้าย และเป็นผู้นำกองทัพปกป้องตระกูลโชกุนจากกลุ่มฟื้นคืนอำนาจพระจักรพรรดิ ดังนั้นเขาจึงมีสายลือดของนักสู้อย่างเต็มเปี่ยม

สำหรับตำแหน่งราชมนตรีสภา หรือสภาสูงของญี่ปุ่น ซึ่งเทียบเท่ากับสมาชิกวุฒิสภา (เดิมเป็นสภาขุนนางที่มีสมาชิกประกอบด้วยขุนนางบรรดาศักดิ์ต่างๆ และคัดเลือกมาอีก 66 คนจากผู้เสียภาษีสูงสุด 6000 คนแรกของประเทศ) ปัจจุบันราชมนตรีสภาคัดเลือกจากการเลือกตั้งโดยคะแนนเสียงของประชาชน มี สมาชิก 242 คน มีวาระดำรงตำแหน่งคนละ 6 ปี

ภาพโดย Mikkabie/ Wikimedia Commons.