เขตปกครองตนเอง"บังซาโมโร" ทางออกปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ของฟิลิปปินส์
ชาวมินดาเนาทางใต้ของฟิลิปปินส์ ลงประชามติเสียงข้างมาก จัดตั้งเขตปกครองตนเองของคนมุสลิม
ชาวมินดาเนาทางใต้ของฟิลิปปินส์ ลงประชามติเสียงข้างมาก จัดตั้งเขตปกครองตนเองของคนมุสลิม
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นฟิลิปปินส์รายงานว่า คณะกรรมาธิการเลือกตั้งของฟิลิปปินส์ ประกาศผลการลงประชาติแผนการปกครองตนเองของชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่บนเกามินดาเนา โดยการกำหนดอาณาเขตบาดส่วนของเกาะให้มีสถานะเป็น "เขตปกครองตนเองบังซาโมโร"
รายงานระบุว่าแผนการลงประชามติดังกล่าวมีผู้ออกมาใช้สิทธิถึง 1,540,017 เสียง และคัดค้าน 198,750 เสียง
การลงมติครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของความพยายามในการกระบวนการเจรจาสันติภาพหลายสิบปีระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์ และกลุ่มติดอาวุธมุสลิมเพื่อยุติปัญหาความรุนแรงบนเกาะมินดาเนา ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 120,000 คน ตลอดระยะเวลาหลายเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี เมืองอิซาเบลลาในจังหวัดบาซีลัน จะไม่ถูกจัดอยู่ในเขตปกครองแห่งใหม่นี้ เนื่องจากเสียงส่วนใหญ่คัดค้าน แต่จังหวัดโคตาบาโต ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเขตปกครองตนเองมินดาเนา จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเขตปกครองตนเองบังซาโมโรด้วย
บังซาโมโร เป็นคำในกลุ่มภาษามลาโย-โพลีเนเซีย คำว่า"บังซา"หมายถึงชาติหรือประชาชน ส่วนคำว่า "โมโร" เป็นภาษาสเปน มาจากคำว่ามัวร์ ที่แปลว่ามุสลิม
ประธานาธิบดีดูเตอร์เต ได้ลงนามในBangsamoro Organic Law (BOL) เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา โดยหวังว่าการลงประชามติครั้งนี้จะนำไปสู่การยุติความขัดแย้งของชาวมุสลิมในพื้นที่เกาะมินดาเนา ระหว่างกองกำลังแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล
สำหรับปธน.ดูเตอร์เตซึ่งเป็นชาวมินดาเนา เขาได้สนับสนุนแนวคิดปกครองตนเองนี้มาตั้งแต่สมัยตนเองเป็นนักการเมืองท้องถิ่นแล้ว
สำหรับกฎหมาย BOL จะกำหนดให้มีการจัดตั้งเขตปกครองตนเองบังซาโมโร ในพื้นที่มินดาเนามุสลิม ผ่านกระบวนการเลือกตั้ง อีกทั้งยังมีอำนาจในการออกฎหมายต่างๆให้สอดคล้องกับสังคมชาวมุสลิมในพื้นที่ด้วย
ส่วนอำนาจการบริหารจะมีมุขมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาลท้องถิ่น มีสภาท้องถิ่นประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 80 คน รวมถึงสามารถบริหารภาษีในสัดส่วน 75% ของภาษีที่จัดเก็บได้ในท้องที่ ส่วนความมั่นคงในพื้นที่ยังคงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลกลาง


