ปาเลสไตน์ลุกฮือ ต้านเปิดสถานทูตสหรัฐในเยรูซาเล็ม

นองเลือดเปิดสถานทูตมะกัน ปาเลสไตน์ปะทะยิว ใช้กระสุนจริงเข้าปราบ ตาย 55 บาดเจ็บนับพัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเมื่อวานนี้มีพิธีเปิดสถานทูตสหรัฐแห่งใหม่ หลังจากประกาศย้ายที่ทำการสถานทูตจากกรุงเทล อาวีฟ ไปยังนครเยรูซาเล็ม อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด โดยในการนี้นางอิวานก้า ทรัมป์ ลูกสาวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายเจรเด คุชเนอร์ ลูกเขยและนักธุรกิจอสังหาฯเชื้อสายยิว ได้เข้าร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้ด้วย

 

 

 

ทั้งนี้มีรายงานว่าในระหว่างพิธีเปิดนั้น ได้เกิดเหตุปะทะกันอย่างรุนแรงของผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์กับเจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอล ที่บริเวณพรมแดนฉนวนกาซา ซึ่งห่างจากนครเยรูซาเล็มราว 100 กิโลเมตร

 

 

รายงานระบุว่ากองทัพอิสราเอลได้สังหารประชาชนไปราว 55 คน และอีกกว่า 2,000 คนได้รับบาดเจ็บ จากการที่ฝ่ายอิสราเอลใช้กระสุนจริงและแก๊สน้ำตาเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม

ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า ทหารฝ่านอิสราเอลจำเป็นต้องป้องกันตนเอง จากการโจมตีของกลุ่มฮามาส ซึ่งมีอิทธิพลในฉนวนกาซา และอยู่เบื้องหลังเหตุชุมนุมครั้งนี้

 

 

 

ขณะที่ผู้นำปาเลสไตน์ประณาม "การสังหารหมู่" ขณะที่มีรายงานว่าสหรัฐขัดขวางแถลงการณ์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่เรียกร้องให้มีการสอบเหตุนองเลือดทางชายแดนอิสราเอล-กาซา

 

 

 

 

ทั้งนี้สำหรับเหตุนองเลือดดังกล่าวนับเป็นเหตุรุนแรงที่มีผู้เสียชีวิตภายในวันเดียวมากที่สุด นับตั้งแต่สงครามกาซาในปี 2014 ขณะที่มีรายงานว่าชาวปาเลสไตน์ที่ลี้ภัยในหลายประเทศต่างออกมาชุมนุมประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐ จากความที่ไม่พอใจในการเปิดสถานทูตแห่งใหม่

 

ภาพ APF