โคลนพิษป่วนไหลสู่ดานูบ‘ฮังการี’วอนกู้ระบบนิเวศ
ฮังการีร้องขอผู้เชี่ยวชาญช่วยแก้วิกฤตโคลนพิษ หลังสารพิษไหลลงแม่น้ำดานูบ
ฮังการีร้องขอผู้เชี่ยวชาญช่วยแก้วิกฤตโคลนพิษ หลังสารพิษไหลลงแม่น้ำดานูบ
เอเอฟพี รายงานเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า นายกรัฐมนตรี วิกเตอร์ ออบัน ของฮังการี กล่าวในระหว่างการเดินทางเยี่ยมหมู่บ้านโครอนตา ที่ได้รับความเดือดร้อนรุนแรงที่สุด โดยกล่าวว่า ฮังการีแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับผลกระทบจากหายนะโคลนพิษได้ และไม่ต้องการความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ
“เรายังเปิดรับสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยเราต่อสู้กับผลกระทบที่เกิดขึ้น” ออบัน กล่าวในระหว่างการแถลงข่าว ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์
เหตุโคลนพิษไหลเข้าท่วมที่พักอาศัยและที่ทำกินของชาวบ้านเกิดขึ้น เนื่องจากผนังของอ่างเก็บน้ำเสียของโรงงานแห่งหนึ่งพังทลายเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา จนทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และถือเป็นหายนะทางนิเวศวิทยาครั้งใหญ่ที่สุดของฮังการี และขณะนี้กำลังคุกคามระบบนิเวศของแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดเป็นอันดับ 2 ของยุโรป ซึ่งไหลจากฮังการีผ่านไปยัง 5 ประเทศ ได้แก่ โครเอเชีย เซอร์เบีย บัลแกเรีย โรมาเนีย และยูเครน ก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลดำ
“โคลนพิษได้เอ่อไปถึงแม่น้ำดานูบแล้ว โดยเข้าไปถึงพื้นที่แม่น้ำสาขาย่อยที่ชื่อโมโซนิ ที่อยู่ห่างจากแม่น้ำสายหลักราว 10 กิโลเมตร” ทิบอร์ ดอบซัน หัวหน้าหน่วยบรรเทาภัยพิบัติส่วนท้องถิ่น กล่าว
รายงานระบุว่า เมื่อเวลา 14.27 น. มีการวัดระดับค่าพีเอชซึ่งอยู่ที่ 9.3 เพิ่มขึ้นจากระดับปกติซึ่งอยู่ที่ราว 8.0 บ่งชี้ระดับความเป็นด่างสูงขึ้น
ดอบซัน ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังพยายามรักษาค่าพีเอชให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 9 เพื่อรักษาชีวิตของพืชและสัตว์น้ำไว้ เนื่องจากล่าสุดพบว่าปลาและพืชน้ำในแม่น้ำมาร์คัลได้เสียชีวิตหมดแล้ว
โคลนพิษสีแดงราว 1.1 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ทะลักเข้าท่วม 6 หมู่บ้านในฮังการีนี้ เป็นส่วนที่ตกค้างจากกระบวนการผลิตอะลูมิเนียม ซึ่งปนเปื้อนสารพิษโลหะหนัก อาทิ สารตะกั่ว แคดเมียม อาร์เซนิก (สารหนู) และโครเมียม และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 4 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็ก


