หนุนท่องเที่ยวเมืองรอง ทอท.เปิดทางพัฒนาศูนย์ซ่อมอากาศยานเชียงราย

บอร์ด ทอท.ไฟเขียวตอกเสาเข็มศูนย์ซ่อมอากาศยานเชียงราย เล็งจับลูกค้าจีนหวังกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ได้มีมติเห็นชอบให้เอกชนเข้ามาพัฒนาศูนย์ซ่อมอากาศยาน ภายในท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งมีเนื้อที่ว่างเปล่าถึง 3,042 ไร่ โดยศูนย์ดังกล่าวเป็นการซ่อมบำรุงอากาศยานเบื้องต้น เพื่อส่งเสริมโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานที่อู่ตะเภา ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานแบบครบวงจร คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างตอกเสาเข็มได้ช่วงต้นปี หรือภายในเดือน มี.ค. 2561 และคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี ก่อนเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2562-2563

สำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนั้น จะเป็นตลาดจีน เนื่องจากมีศักยภาพด้านปริมาณความต้องการที่สูง ประกอบกับปัจจุบันมีเครื่องบินที่ถูกสั่งซื้อมากกว่า 100 ลำ ที่รอส่งมอบให้สายการบิน แต่ไม่มีที่จอด ดังนั้นการพัฒนาศูนย์ซ่อมอากาศยานเชียงรายจะช่วยเพิ่มรายได้อีกทางให้กับท่าอากาศยานไทย

นอกจากนี้ ยังสามารถสนับสนุนการท่องเที่ยวได้ด้วย เนื่องจากเครื่องบินที่ต้องเดินทางมาซ่อมจะไม่ต้องบินเครื่องเปล่ามา แต่จะขนผู้โดยสารมาด้วยเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ส่งผลให้มีการทำตลาดท่องเที่ยวเชียงรายดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้น อีกทั้งยังดึงดูดสายการบินใหม่ๆ ให้เข้ามาเปิดเส้นทางที่เชียงรายเพื่อ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองด้วย

นายนิตินัย กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาท่าอากาศยาน ทอท.ในอนาคตนั้น จะต้องมีพื้นที่บริการและพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เท่าๆ กัน เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งมีโครงการนำร่องไปแล้ว 2 ท่าอากาศยาน พบว่ามีรายได้เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นอย่างมาก เริ่มจากปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของท่าอากาศยานดอนเมือง ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 900 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายเพิ่มขึ้นเพียง 300 ล้านบาท เช่นเดียวกับที่ท่าอากาศยานภูเก็ต หลังจากปรับปรุงอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศส่งผลให้ รายได้เพิ่มขึ้น 900 ล้านบาท ส่วนด้านความ คืบหน้าการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศของท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น ขณะนี้เปิดใช้ได้ครึ่งหนึ่งแล้ว ส่วนที่เหลือคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย. 2561

ทั้งนี้ ในปี 2561 ทอท.จะเพิ่มเทคโนโลยีในงานบริการมากขึ้น โดยเตรียมเข้าโครงการ Airport Cooperate Decision Making (ACDM) ผ่านการจับมือกับ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) เพื่อนำข้อมูลบิ๊กดาต้ามาใช้ เช่น การแจ้งระยะเวลาเครื่องลงและปริมาณกระเป๋า เพื่อให้ ทอท.สามารถวางแผนรองรับก่อนเครื่องลง