โลกมีหวัง! เด็กติด HIV รักษาแต่เกิด เชื้อสงบไม่ต้องพึ่งยา
แพทย์แอฟริกาใต้เผยข่าวดี เด็กติดเชื้อเอชไอวีจากแม่ที่ได้รับการรักษาตั้งแต่แบเบาะ ทำให้โรคอยู่ในระยะสงบเกือบทั้งชีวิต
แพทย์แอฟริกาใต้เผยข่าวดี เด็กติดเชื้อเอชไอวีจากแม่ที่ได้รับการรักษาตั้งแต่แบเบาะ ทำให้โรคอยู่ในระยะสงบเกือบทั้งชีวิต
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อวี่ ไวโอลารี แพทย์หญิงหัวหน้าการทดลองคลินิกกุมารเวชของศูนย์วิจัยเอชไอวี ระยะก่อนและหลังคลอด ประจำ ม.วิทวอเตอร์สแรนด์ของแอฟริกาใต้ รายงานการค้นพบในที่ประชุมโรคเอดส์นานาชาติครั้งที่ 9 ตามแนวทางศาสตร์เชื้อเอชไอวี ณ กรุงปารีส ของฝรั่งเศส โดยเป็นกรณีแรกของแอฟริกาใต้และกรณีที่ 3 ของโลกที่ได้รับการรายงาน
กรณีที่เกิดขึ้นในวงการแพทย์ของแอฟริกาใต้ ตรวจพบว่าเด็กติดเชื้อตั้งแต่อายุ 1 เดือน ทันทีหลังจากผลการวินิจฉัยออกมาผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพรุนแรง หรือ ART เป็นเวลา 40 สัปดาห์ หรือ 10 เดือน
การรักษาของเด็กชายคนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทดลองทางการแพทย์เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ที่นำทารกติดเชื้อเอชไอวีจำนวนกว่า 370 คน เข้ารับการรักษากึ่งทดลอง ซึ่งมีทั้งหมด 3 รูปแบบ รูปแบบแรกคือ การรักษาแบบ ART 40 สัปดาห์ รูปแบบที่สองก็รักษาแบบเดียวกัน แต่เพิ่มระยะเวลาเป็น 96 สัปดาห์ และรูปแบบสุดท้ายคือการรักษาตามมาตรฐานในเวลานั้น ซึ่งวัดจากระดับเซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ถูกทำลายโดยไวรัส หรือ CD4 cells มีเป้าหมายเพื่อศึกษาอัตราการเสียชีวิตของทารกที่ติดเชื้อเอชไอวีหลังการรักษาทั้ง 3 แบบ เนื่องจากเชื้อในร่างกายของผู้ติดเชื้อช่วงวัยนี้มีแนวโน้มพัฒนาความรุนแรงได้รวดเร็ว จนเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วด้วยเช่นกัน รวมถึงแพทย์อยากศึกษาว่า การรักษาแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยให้ร่างกายเข้าสู่ระยะโรคสงบได้ในอนาคตหรือไม่
ผลปรากฏว่า ทารกที่รักษาด้วยยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพรุนแรง 40 และ 96 สัปดาห์ มีอัตราการเสียชีวิตลดลง 76% การพัฒนาของเชื้อเอชไอวีลดลง 75% ขณะที่กลุ่มที่รักษาด้วยวิธีมาตรฐานมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น จนแพทย์ตัดสินใจยุติการรักษาวิธีนี้หลังจากนั้น
กรณีของทารกแอฟริกาใต้ หลังจากรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพรุนแรง 40 สัปดาห์ ทางโรงพยาบาลก็ยุติการให้ยาและใช้วิธีติดตามผลตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่อง กระทั่งผลการตรวจสอบเลือดของเด็กเมื่อปี 2015 พบว่า เชื้อเอชไอวีอยู่ในระยะโรคสงบแล้ว หรือการตรวจสอบที่มีมาตรฐานไม่พบไวรัสในเลือดแล้ว ที่น่าสนใจอย่างมากคือ ผลการตรวจสอบตัวอย่างเลือดย้อนหลังไปจนถึงช่วงคนไข้ยังแบเบาะ หรือทันทีที่หยุดการให้ยา ก็ยังพบว่าโรคทุเลา หรือไม่พบเอชไอวีในเลือดแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ เด็กที่เข้ารับการรักษาในสองกลุ่มแรกที่ได้ผล ต้องเข้ารับการรักษาอีกเช่นกัน มีตั้งแต่ทันทีที่รักษาครบตามระยะกำหนด ไปจนถึงหลังจากนั้น 4 ปี แต่เด็กชายคนนี้ซึ่งปัจจุบันอายุ 9 ขวบแล้ว เป็นคนไข้ในกลุ่มทดลองเพียงคนเดียวที่มีผลเลือดแสดงผลเชื้ออยู่ในภาวะสงบ แม้จะพบชิ้นส่วนของไวรัสหลงเหลือในเซลล์เลือดอยู่แต่ไม่พบการแบ่งตัวของไวรัส
อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์มีข้อสังเกตว่า กรณีของเด็กชายคนนี้ อาจเป็นกรณีที่พิเศษมากจริงๆ เนื่องจากมีการตรวจพบว่า ระดับของเชื้อไวรัสของเขาเริ่มลดลงตั้งแต่ก่อนที่เด็กเข้ารับการรักษาแบบพิเศษแล้ว จึงเชื่อว่าลักษณะทางชีววิทยาและระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายของเด็กเองมีส่วนสำคัญในการต่อต้านเชื้อ
เอชไอวี ซึ่งการค้นพบมีส่วนอย่างมากในการผลักดันไปสู่การศึกษาประเด็นภูมิคุ้มกันของร่างกายที่สามารถต้านเชื้อเอชไอวี หรือร่างกายตอบรับการรักษาแบบ ART จนเชื้ออยู่ในระยะสงบ เพื่อต่อยอดไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ควบคู่ไปกับการรักษา เพื่อให้ผู้ติดเชื้อสามารถยุติการรักษาได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ต้องมีชีวิตแบบพึ่งพายารักษาอีกต่อไป
ที่มา www.m2fnews.com
ภาพ...เอเอฟพี


