posttoday

'กัมพูชา'โลจิสติกส์เด่น ดูดลงทุนเทียบ'สิงคโปร์'

08 เมษายน 2560

"กัมพูชา" เป็นอีกตลาดเพื่อนบ้านที่มีความน่าสนใจ เพราะมีความโดดเด่นในเรื่องของ "โลจิสติกส์" ซึ่งสามารถใช้รถบรรทุกขนส่งสินค้าจากชายแดนไทยเข้าไปถึงทุกจังหวัดในกัมพูชาได้ภายใน 1 วันเท่านั้น

โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล

"กัมพูชา" เป็นอีกตลาดเพื่อนบ้านที่มีความน่าสนใจ เพราะมีความโดดเด่นในเรื่องของ "โลจิสติกส์" ซึ่งสามารถใช้รถบรรทุกขนส่งสินค้าจากชายแดนไทยเข้าไปถึงทุกจังหวัดในกัมพูชาได้ภายใน 1 วันเท่านั้น และที่สำคัญเป็นเพียงประเทศเดียวในซีแอลเอ็มวีที่เปิดกว้างธุรกิจเสรีให้ต่างชาติสามารถเข้า ไปทำได้เกือบทุกชนิด จึงไม่แปลกที่จะถูกยกให้เป็นเหมือนสิงคโปร์ 2

ณัฐ วิมลจันทร์ นักวิชาการ พาณิชย์ชำนาญการ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่มีความต้องการนำเข้าสินค้าแทบทุกชนิด มีความนิยมใน สินค้าไทย มีนโยบายการค้าเสรี การเมืองมีเสถียรภาพและเศรษฐกิจเติบโต ต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ประกอบกันคือ "โอกาส" ของผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดแห่งนี้

รวมถึง "กำลังซื้อ" แม้ว่าจะมี กลุ่มประชากรที่กำลังซื้อสูงเพียงแค่ 5% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ แต่คนกลุ่มนี้ต้องบอกว่า "รวยจริง" นิยมซื้อสินค้าแบรนด์เนมที่มีคุณภาพ ไม่สนใจราคา เห็นได้จากในกัมพูชา มีรถยนต์ยี่ห้อโรลส์-รอยซ์ วิ่งใช้งาน อยู่บนท้องถนนมากถึง 50 คัน และทางบริษัทโรลส์-รอยซ์เองก็ตั้งเป้า ที่ทำยอดให้ได้ 1,000 คัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพกำลังซื้อของคน กลุ่มนี้

ขณะที่อีก 15% ก็เป็นกลุ่มชนชั้นกลาง ซึ่งคนกลุ่มนี้ประกอบด้วยนักธุรกิจ นักลงทุนและผู้บริหารระดับสูงจาก ต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในกัมพูชา ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็มีกำลังซื้อที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ที่เหลือ 80% เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อต่ำ แต่ก็ใช่ว่าคนกลุ่มนี้จะไม่มีความต้องการในการซื้อสินค้า

พร้อมจัดอันดับกลุ่มธุรกิจที่มี โอกาสในการเข้าไปลงทุนในกัมพูชา โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจดาวรุ่ง ประกอบด้วย ธุรกิจ ท่องเที่ยว ธุรกิจก่อสร้างที่มีการเติบโต 15-20% ต่อปี ส่งผลให้ธุรกิจต่อเนื่องอย่าง เฟอร์นิเจอร์ ตกแต่ง อสังหา ริมทรัพย์ และสถาปนิก เติบโตตามไปด้วย 2.กลุ่มธุรกิจดาวโรย ได้แก่ สินค้าที่ไม่มีความแตกต่างกัน เช่น น้ำมันหล่อลื่น และกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่ม ดาวร่วง เช่น กลุ่มที่ใช้แรงงานเข้มข้นอย่างธุรกิจการ์เมนต์ เป็นต้น

ณัฐ แนะนำว่า การจะตัดสินใจออกไปลงทุนเพื่อนบ้านนั้นควรจะมองใน 4 ด้านนี้ให้ได้ก่อน คือ มองให้ ออกว่า เมกะเทรนด์ คืออะไรบ้าง เช่น เศรษฐกิจที่เปลี่ยนขั้วมาอยู่ที่จีนและอาเซียน การเข้าสู่สังคมสูงวัย สินค้าสำคัญกลุ่มผู้หญิงที่มีกำลังซื้อสูง ความเฉพาะตัวของสินค้า และช่องทางใหม่อย่างอี-คอมเมิร์ซและโซเชียลมีเดีย

ณัฐพล เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ กล่าวว่า ในตลาดซีแอลเอ็มวี ล็อกซเล่ย์เป็นทั้งผู้นำเข้า ผู้ส่งออก และดิสทริบิวเตอร์ มีสำนักงานอยู่ในทุกประเทศ ยกเว้นเมียนมาที่ยังไม่อนุญาต ซึ่ง แต่ละประเทศก็มีบริบทและธรรมชาติที่ต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ อยากให้มองเป็นตลาดเดียว และประเทศกลุ่มนี้ก็กำลังพัฒนาตามไทยมาติดๆ มีความเป็นสังคมเมืองสูงขึ้น ทำให้ชนชั้นกลางที่ต้องการสินค้ามีคุณภาพมีมากขึ้น ซึ่งไทยได้เปรียบในจุดนี้ จากทำเลที่ตั้งใกล้กัน ทำให้เพื่อนบ้านคุ้นเคยกับสินค้าไทยและให้การยอมรับ ส่งผลให้มูลค่าการค้าในตลาดกลุ่มนี้โตขึ้นต่อเนื่อง

นอกจากนี้ จังหวัดตามเมืองชายแดนก็น่าจะเป็นอีกช่องทาง เลือกที่ดี สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มเอสเอ็มอีที่จะใช้ในการเข้าไปทดลองทำตลาดก่อนบุกเข้าไปประเทศ เพื่อนบ้านอย่างเต็มตัว

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”