สะหวันปาร์ค สวรรค์ใหม่นักลงทุน
“สะหวันปาร์ค” ของลาว ประสบความสำเร็จได้ เพราะมีเป้าหมายในการพัฒนาที่ชัดเจน ประกอบกับตั้งอยู่เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (EWEC)
โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล
“สะหวันปาร์ค” ของลาว ประสบความสำเร็จได้ เพราะมีเป้าหมายในการพัฒนาที่ชัดเจน ประกอบกับตั้งอยู่เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (EWEC) รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านสิทธิประโยชน์ และการอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน จึงทำให้สะหวันปาร์คกลายเป็นสวรรค์แห่งใหม่ของนักลงทุน
“เราโฟกัสไปที่บริษัทลงทุนต่างประเทศที่ลงทุนในประเทศไทยแล้วมีปัญหา แล้วให้มองสะหวันปาร์คเป็นทางเลือก เนื่องจากลาวยังได้สิทธิพิเศษทางภาษี (จีเอสพี) อยู่ เพราะการจะดึงบริษัทไทยให้ออกมาลงทุนที่นี่ค่อนข้างยาก เนื่องจากคนไทยยังติดอยู่ในคอมฟอร์ตโซน แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว”ที ชี เส็ง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สะหวัน แปซิฟิก ดีเวลล็อปเม้นต์ บอกถึงเป้าหมายในการดึงการลงทุน
มิสเตอร์ที บอกอีกว่า การที่รัฐบาลลาวสนับสนุนให้ทำบริการเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One-Stop Service) ทำให้สะหวันปาร์คสามารถออกใบอนุญาตเสร็จภายใน 5 วัน ทำให้ธุรกิจสามารถทำได้ง่ายและเดินได้เร็วกว่าที่อื่น ซึ่งนี่เป็นหัวใจของการทำเขตเศรษฐกิจพิเศษให้ประสบความสำเร็จ
สำหรับสะหวันปาร์คอยู่ในโซน C ของเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน ซึ่งเป็นโซนอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ฮับ อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร) เพียง 7-9 กิโลเมตร และอยู่ห่างสนามบินสะหวันนะเขต เพียง 5 กิโลเมตร โดยโซน A จะเป็นโซนที่เหมาะกับกิจการด้านบริการ การท่องเที่ยว และร้านค้าปลอดภาษี โซน B โซนโลจิสติกส์ ปาร์ค เป็นเขตบริการจัดส่งและกระจายสินค้า เพราะเป็นจุดตัดระหว่าง R13 เชื่อมเหนือ-ใต้ กับ R9 ซึ่งเชื่อมตะวันออก-ตะวันตก และโซน D เป็นเขตบ้านจัดสรรรองรับการอยู่อาศัยของทั้งนักลงทุนต่างชาติและคนทั่วไป
ขณะที่อุตสาหกรรมเป้าหมายได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักรและชิ้นส่วนอากาศยาน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมเกษตรที่น่าจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย เพราะยังมีพื้นที่เพาะปลูกอีกมาก
ทั้งนี้ ตั้งเป้ารับการลงทุนเพียง 120 โรงเท่านั้น เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านแรงงานในพื้นที่ ปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมกลุ่มต่างๆ เข้ามาเปิดแล้ว 51 โรง และคาดว่าจะครบภายใน 2-3 ปีนี้ หรือจะมีการเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานใหม่เฉลี่ยเดือนละ 1-2 โรง
อีกเหตุผลที่ทำให้สะหวันปาร์คมีความน่าสนใจคือ “การมีท่าเรือบก” (ไดร์ พอร์ต) ที่ช่วยเติมเต็มจุดอ่อน ของลาว ในด้านโลจิสติกส์ จากเดิมที่เป็นแลนด์ล็อกให้กลายเป็นแลนด์ลิงก์ซึ่งท่าเรือบกนี้สามารถรองรับตู้คอนเทนเนอร์สินค้าได้มากถึง 1,000 ตู้ และยังสามารถขนส่งสินค้าทางบกไปยัง 8 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม ลาว จีน กัมพูชา และเมียนมา โดยที่ไม่ต้องนำตู้สินค้าอ้อมไปเปลี่ยนที่ท่าเรือแหลมฉบัง ทำให้ใช้เวลาในการขนส่งสินค้าทางบกจากลาวไปจีนและเวียดนามเพียง 4-5 วัน และยังมีเที่ยววิ่งไปเซินเจิ้นทุกวัน
“สะหวันนะเขตมีเอสเอ็มอีเยอะ แต่ไม่มีศักยภาพที่จะส่งสินค้าเต็มตู้ ทำให้มีต้นทุนขนส่งแพง พอมีท่าเรือบก ทำให้มีบริษัทขนส่งโลจิสติกส์เข้ามาลงในสะหวันปาร์คทั้งญี่ปุ่นและมาเลเซีย อีกทั้งตอนนี้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซกำลังมา ทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีสบายขึ้น ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว เพราะเราคือ จีเอ็มเอส” มิสเตอร์ที กล่าว


