posttoday

ส่องโอกาสเที่ยวเรือสำราญหลังอาเซียนตื่นร่วมพัฒนา

03 กุมภาพันธ์ 2560

งานมหกรรมท่องเที่ยวอาเซียนประจำปีหนึ่งในประเด็นหลักคือ ประเทศในอาเซียนจะร่วมมือกันพัฒนาการท่องเที่ยวทางเรือสำราญ (ครูซ ทัวริสซึ่ม)

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

งานมหกรรมท่องเที่ยวอาเซียนประจำปี หรืออาเซียน ทัวริสซึ่ม ฟอรั่ม (เอทีเอฟ) 2017 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว หนึ่งในประเด็นหลักคือ ประเทศในอาเซียนจะร่วมมือกันพัฒนาการท่องเที่ยวทางเรือสำราญ (ครูซ ทัวริสซึ่ม)

บริษัท เบอร์เมลโล อจามิล แอนด์ พาร์แทเนอร์ ที่ปรึกษาการพัฒนาท่าเรือ จัดทำรายงานเกี่ยวกับการพัฒนา ท่องเที่ยวเรือสำราญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายงานนี้เผยแพร่ในงานเอทีเอฟ ระบุว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมเรือสำราญจะสร้างโอกาสให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้านการ กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็มีความท้าทายเรื่องการพัฒนาไปสู่การเป็นจุดหมายท่องเที่ยวเรือสำราญ โดยเฉพาะเรื่องเงินทุนในการพัฒนา ซึ่งโครงสร้างผู้ลงทุนประกอบด้วย รัฐบาล บริษัทเอกชน ผู้ให้บริการเดินเรือสำราญ หรือผู้ให้บริการอาคารผู้โดยสารสำหรับผู้โดยสารด้วยเรือสำราญ
  
ทั้งนี้ คาดว่าจำนวนผู้โดยสารทางเรือสำราญในปี 2578 ที่จะเดินทางมาเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมี 4.5 ล้านคน เพื่อรองรับโอกาสนี้ต้องพัฒนาจุดหมายเรือสำราญนำเสนอประสบการณ์ช่วงวันหยุดให้ผู้โดยสารเรือสำราญ พัฒนาท่าจอดเรือสำราญเพื่อเพิ่มจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางมาและรองรับเรือสำราญได้ขนาดใหญ่ขึ้น
   
นอกจากนี้ ต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สนับสนุนการท่องเที่ยวเรือสำราญ ทั้งด้านการเชื่อมต่อและ สิ่งอำนวยความสะดวกภาคพื้นดิน เช่น สนามบิน โรงแรม แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงทบทวนกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความสะดวกด้านการปฏิบัติการของอุตสาหกรรมเรือสำราญ

แทชเชอร์ บราวน์ ประธาน ดรีม ครูซ บริษัทเดินเรือสำราญ เปิดเผยว่า เรือเกนติ้ง ดรีม ในเครือดรีม ครูซ จะใช้สิงคโปร์เป็นท่าเรือจอดรับผู้โดยสารต้นทางและสิ้นสุดการเดินเรือ (โฮมพอร์ต) ตลอดทั้งปี โดยเริ่มจอดตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2560 เป็นต้นไป มีเป้าหมายสำคัญคือพัฒนาอาเซียนเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางเรือสำราญ การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้สิงคโปร์มีเรือแบรนด์ใหม่ ทั้งยังเป็นเรือขนาดใหญ่ 1.51 แสนตัน มาจอดครั้งแรก
 
เกนติ้ง ดรีม เป็นเรือหรู ภายในมีรีสอร์ทถูกออกแบบมาเพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวอาเซียนโดยเฉพาะ เรือลำนี้จะใช้เดินทางแวะจอดมากกว่า 10 ท่าเรือสำคัญในอาเซียนภายในปี 2561 ซึ่งอยู่ในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม โปรแกรมการเดินทางเบื้องต้นมีโปรแกรมเดินทาง 5 คืน คือ อาทิตย์-ศุกร์ ได้แก่ สิงคโปร์-กัวลาลัมเปอร์-ปีนังภูเก็ต-สิงคโปร์ และสิงคโปร์-สุราบายา- เซลูกัน บาวัง (ตอนเหนือของบาหลี)สิงคโปร์ โปรแกรมเดินทาง 2 คืน คือ สิงคโปร์-กัวลาลัมเปอร์-สิงคโปร์ และมีโปรแกรมช่วงตรุษจีน วันที่ 20-23 ก.พ. 2561 รวม 3 คืน สิงคโปร์-ภูเก็ต-ปีนังสิงคโปร์ เป็นต้น

ด้านภาพรวมคนสิงคโปร์ที่เดินทางท่องเที่ยวทางทะเลปี 2558 อยู่ที่ 1.75 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปี 2555 คิดเป็น 19.2% ของนักท่องเที่ยวสิงคโปร์ทั้งหมดที่เดินทางเที่ยวต่างประเทศ ยอดการเดินทางทางเรือของคนสิงคโปร์เติบโตเฉลี่ย 10.6% ต่อปี คาดว่าหลังเกนติ้ง ดรีม ใช้สิงคโปร์เป็นโฮมพอร์ตปลายปีนี้ จะทำให้จำนวนวันล่องเรือในสิงคโปร์เพิ่ม 20% ในปี 2561

โรลันโด คานิซัล รมช.การท่องเที่ยว ประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ฟิลิปปินส์จะหารือกับรอยัล คาริบเบียน บริษัทเดินเรือสำราญระดับโลก ทำงานร่วมกันเพื่อผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวทางเรือสำราญในฟิลิปปินส์ ผ่านการลงทุนยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ไทยมีศักยภาพสูงในการเป็น โฮมพอร์ต เพราะเมื่อจอดมีจุดหมายใกล้เคียงให้เดินทางไปได้มาก ปัจจุบันไทยกำลังพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกที่ท่าเทียบเรืออ่าวปอ จ.ภูเก็ต และมีแผนปรับปรุงท่าเรือแหลมฉบังและสร้างท่าจอดเรือสำราญที่เกาะสีชัง

จุมพล ชฎาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีเกล อินเตอร์เนชั่นแนล แทรเวล ผู้ดำเนินธุรกิจบริษัทนำเที่ยวที่เจาะตลาดเที่ยวเรือสำราญ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมากระแสคนไทยเที่ยวเรือสำราญเติบโตก้าวกระโดด ด้านนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ล่องเรือสำราญจากต้นทางมาแวะขึ้นฝั่งเที่ยวไทยก็เติบโตเช่นกัน และแนวโน้มยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวทางเรือสำราญ

"เดิมที่นั่งบนเรืออาจขายได้ 80% ก็ขายได้เต็ม 100% หรือที่นั่งบนเรือเต็ม 100% อยู่แล้วก็ขายได้ราคาดีขึ้น ไม่ต้องแข่งลดราคาเพื่อทำให้เต็ม เป็นเช่นนี้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้โดยสารที่เพิ่มส่วนใหญ่เป็นคนเอเชีย ส่วนตลาดยุโรปก็เดินทางปกติ" จุมพล กล่าว

สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวเรือสำราญมีลักษณะเฉพาะ ถ้าดีจะดีมากทั้งปีเลยและรู้ล่วงหน้า ถ้าไม่ดีก็รู้ล่วงหน้าเช่นกัน ปัจจุบันจีนมีปัญหาเศรษฐกิจ เรือที่เคยใช้จีนเป็นโฮมพอร์ตคงหายไป 30% และคงมาใช้อาเซียนเป็นโฮมพอร์ตแทน ซึ่งการเดินทางที่สมบูรณ์ควรล่อง 7 วัน ฝั่งอันดามัน และ 7 วันฝั่งอ่าวไทย กรณีที่ยังไม่มั่นใจกระแสตอบรับก็จะเริ่มจาก 5 วัน ด้านเกนติ้ง ดรีม ที่ใช้สิงคโปร์เป็นโฮมพอร์ตและล่องผ่านไทยก็เป็นผลดีกับไทยแน่นอน แต่ผลดีอาจไม่มากเท่ามาเลเซีย เพราะจอดแวะที่ไทยเพียงท่าเรือเดียวที่ จ.ภูเก็ต

ดูแนวโน้มแล้วปีนี้คงเห็นการท่องเที่ยวทางเรือสำราญในอาเซียนคึกคักแน่นอน

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68