ช่วยสาวเขมร 7 คน ถูกหลอกขายบริการในญี่ปุ่น
สถานทูตกัมพูชาประสานงานช่วยเหลือหญิงสาว 7 คนที่ถูกหลอกมาขายบริการ ในจังหวัดกุนมะ หลังได้รับข้อความขอความช่วยเหลือผ่านเฟซบุ๊ก
สถานทูตกัมพูชาประสานงานช่วยเหลือหญิงสาว 7 คนที่ถูกหลอกมาขายบริการ ในจังหวัดกุนมะ หลังได้รับข้อความขอความช่วยเหลือผ่านเฟซบุ๊ก
หญิงสาวชาวกัมพูชาจำนวน 7 คน ที่ถูกโน้มน้าวให้ไปทำงานร้านอาหารแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น แต่กลับถูกหลอกให้ขายบริการแทน ได้รับความช่วยเหลือแล้ว หลังจากที่พวกเธอตัดสินใจส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูตกัมพูชา ผ่านเฟซบุ๊ก
ขณะนี้หญิงสาวจำนวน 6 คน อาศัยอยู่ที่สถานทูตกัมพูชา ในกรุงโตเกียว เพื่อรอการส่งตัวกลับบ้าน ในวันพฤหัสบดีนี้ ส่วนหญิงสาวอีกคนนั้นถูกส่งตัวกลับบ้านแล้ว เมื่อเดือนก่อน เพื่อเข้ารับการรักษาตัวทางการแพทย์
พวกเธอถูกล่อลวงให้ไปทำงานที่ร้านอาหาร โดยเชื่อว่าจะได้รับค่าจ้างสูง เจ้าของร้านเป็นผู้ทำวีซ่า และออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมดให้แก่พวกเธอ แต่เมื่อพวกเธอเดินทางถึงญี่ปุ่น เมื่อเดือนเมษายน กลับพบว่าถูกหลอก พวกเธอไม่ได้รับค่าจ้าง และถูกบังคับให้ขายบริการ
ด้านเจ้าหน้าที่ในสถานทูตได้รับข้อความจากพวกเธอ เมื่อเดือนที่แล้ว ผ่านทางเฟซบุ๊กเพจของสถานทูตกัมพูชา จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่น ในจังหวัดกุนมะ เพื่อช่วยเหลือหญิงสาวทั้งหมดออกมา รวมทั้งยื่นฟ้องร้านอาหารดังกล่าว จากข้อหาค้ามนุษย์
องค์การย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศ (IOM) ยื่นมือเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเหยื่อสาวทั้งหมด อย่างไรก็ดีรายละเอียดข้อมูลไม่สามารถเปิดเผยได้มากนัก เพื่อความปลอดภัย และขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างการเตรียมพิจารณาคดี เอาผิด และค่าชดเชยจากบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องที่ล่อลวงพวกเธอมา
เมื่อปีที่ผ่านมา แระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ญี่ปุ่นเปรียบเสมือนแหล่งซ่องสุม, จุดหมายปลายทาง ตลอดจนการขนส่งแรงงานผิดกฏหมาย และผู้ค้าบริการทั้งหญิง และชาย และยังกล่าวหาว่าทางรัฐบาลญี่ปุ่นเองไม่มีมาตรการที่แข็งแกร่งพอในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ไม่เคยมีรายงานว่าชาวกัมพูชาถูกบังคับให้เข้าไปค้าบริการในญี่ปุ่นมาก่อน ข่าวที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องใหม่ เนื่องจากก่อนหน้าบรรดาหญิงสาวชาวกัมพูชามักถูกหลอกให้ไปค้าบริการในมาเลเซีย และจีน เป็นต้น รายงานจาก Moeun Tola หัวหน้ากลุ่มสิทธิมนุษยชนแรงงาน จากกัมพูชา


