ปั๊มน้ำมัน ML เบอร์2ในตลาดลาว
สปป.ลาว อีกหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนที่อยู่ระหว่างการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป
โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล
สปป.ลาว อีกหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนที่อยู่ระหว่างการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป ที่แม้จะไม่หวือหวานัก แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสทางการค้าการลงทุนในตลาดใหม่ ที่มีความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์และระบบโครงสร้างพื้นฐานรอบด้าน รวมถึงบริการสถานีน้ำมัน
วิไลลัก พรหมจัน รองผู้จัดการ บริษัท เมืองหลวง ปิโตรเลียม ผู้บริหารธุรกิจสถานีน้ำมัน (ปั๊ม) เอ็มแอล (ML) เปิดเผยว่า ในฐานะรุ่นสองกิจการครอบครัวที่หันมาสานต่อธุรกิจอย่างเต็มตัวตั้งแต่ปี 2557 พร้อมขยายการดำเนินงานด้านคลังน้ำมัน โดยนำเข้าน้ำมันกลั่นปิโตรเลียมและทำตลาดภายใต้แบรนด์ ML หรือในภาษาท้องถิ่น น้ำมันเชื้อเพลิงเมืองหลวง
“จากเดิม สปป.ลาว จะมีเพียงปั๊มคาลเท็กซ์ เชลล์ ซึ่งเป็นของนักลงทุนต่างชาติ แต่ก็มาได้ไม่นานเพราะต้องลงทุนเองหมด ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงในลาวมีราคาสูงถึง 100% เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะต้องรับมาจากโรงกลั่นอีกทอดเพื่อนำเข้ามาทำตลาด ปัจจุบันน้ำมันดีเซลเฉลี่ยราคาอยู่ที่ 50 บาท/ลิตร” วิไลลัก กล่าว
สำหรับแผนธุรกิจปั๊มน้ำมัน ML ภายใน 3-5 ปีนับจากนี้ บริษัทวางเป้าหมายขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันเพิ่มให้ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ สปป.ลาว จากปัจจุบันมีอยู่ 40 แห่ง โดยวางแนวทางขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์สำหรับนักลงทุนที่สนใจ ในสัดส่วนการลงทุน 50% เท่ากัน โดยขึ้นอยู่เป็นรายสัญญาและทำเล ซึ่งสนใจในภูมิภาคทางตอนเหนือของ สปป.ลาว คาดใน 1-2 ปีหน้า จะมีสาขาใหม่เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง
วิไลลัก เสริมถึงอุตสาหกรรมตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงใน สปป.ลาวในปัจจุบันเริ่มแข่งขันสูงขึ้น ด้วยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ทั้งเวียดนามและไทยหันมาขยายธุรกิจสถานีบริการน้ำมันในลาวมากขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์จากเวียดนามที่เข้ามาตีตลาดอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาล สปป.ลาวเองได้หันมาวางกฎระเบียบใหม่ในหลายด้าน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ธุรกิจท้องถิ่นในประเทศมากขึ้น อาทิ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อัตรา 10% หรือกฎหมายธุรกิจต่างชาติด้านอื่นๆ เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมมากขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทซึ่งเป็นกิจการท้องถิ่นในประเทศ ก็จะต้องปรับกลยุทธ์ด้านการบริหารต้นทุนทางธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันคาดมีผู้ให้บริการธุรกิจน้ำมันใน สปป.ลาว ราว 11 ราย อาทิ ปิโตรเทรด พีวีแอล เวียดนาม ขณะที่คู่แข่งหลักๆ ของบริษัทจะเป็นปิโตรลาว เชื้อไฟลาว และลาวใหม่ เป็นต้น รวมถึงการเข้ามาของ ปตท.จากไทย
พร้อมกันนี้ บริษัทยังสนใจขยายธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันเพิ่ม เพื่อที่จะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจและการแข่งขันในตลาดระยะยาว คาดใน 5 ปีนับจากนี้จะเริ่มเห็นความชัดเจน โดยใช้งบลงทุนหลักหลายร้อยล้านบาท เพื่อจัดหา (ซัพพลาย) น้ำมันดิบเข้ามากลั่น รวมไปถึงการจัดทำสายส่งน้ำมันที่วิ่งจากฝั่งไทยมายัง สปป.ลาวได้อย่างครบวงจร จากปัจจุบันบริษัทมีบริการขนส่งและกระจายสินค้า (โลจิสติกส์) หน่วยรถวิ่งราว 15 คันทั่วประเทศ
โดยอนาคตบริษัทสนใจเข้ามาเปิดให้บริการปั๊มน้ำมันในจังหวัดต่างๆ ในลาวตอนเหนือ อาทิ เวียงจันทน์ คำม่วน นครมาน สะหวันนะเขต ปากเซ เป็นต้น จากปัจจุบันจะลงทุนหลักในพื้นที่จังหวัดทางตอนใต้ของลาว โดยบริษัทวางเป้าหมายการเติบโตธุรกิจอยู่ที่ 20% ต่อปี
ขณะที่บริษัทถือเป็นผู้ให้บริการสถานีน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับสองของ สปป.ลาว รองมาจากเชื้อไฟลาว ซึ่งเป็นกิจการของรัฐบาล สปป.ลาว ซึ่งจะมีผู้ให้บริการใหญ่ไปกว่าไม่ได้


