‘ด่อง’ดิ่งเหวเสี่ยง‘ช็อก’
ค่าเงินทิ้งตัววูบ4วันติดต่อกันแนะเร่งปฏิรูปปรับสมดุลศก.เวียดนามสั่นคลอนหนัก ระบบการเงินเผชิญความเสี่ยงรุนแรง หลังลดค่าเงินเป็นครั้งที่ 3 ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 ปีเลซวนเหงีย รองประธานคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาการเงินแห่งชาติ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เปิดเผยว่า ได้เตือนเกี่ยวกับสภาพคล่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของเวียดนามเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะช็อก หลังจากที่ธนาคารกลางตัดสินใจลดค่าเงินด่องเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี จนยังผลให้ค่าเงินด่องอ่อนค่าลงอย่างฮวบฮาบเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน“ความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดในด้านนโยบายระดับมหภาค ก็คือเวียดนามจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านการเงิน ขณะนี้ดุลบัญชีเดินสะพัดยังขาดดุลในระดับสูง ขณะที่กลไกอัตราแลกเปลี่ยนกลับมีความยืดหยุ่นน้อยลง หากเวียดนามไม่ระมัดระวังอาจต้องเผชิญกับภาวะช็อกในสภาพคล่องของเงินตราต่างประเทศ” เล กล่าวขณะที่บริษัท เครดิต สวิส เตือนว่าการอ่อนค่าของเงินด่องถือเป็นความท้าทายสำหรับเวียดนาม และเสนอแนะว่าเวียดนามจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปค่าเงินอย่างเร่งด่วน พร้อมชี้ว่าเศรษฐกิจของเวียดนามยังไม่เกิดความสมดุลในการขยายตัวและเสถียรภาพระดับมหภาค นอกจ
ค่าเงินทิ้งตัววูบ4วันติดต่อกันแนะเร่งปฏิรูปปรับสมดุลศก.
เวียดนามสั่นคลอนหนัก ระบบการเงินเผชิญความเสี่ยงรุนแรง หลังลดค่าเงินเป็นครั้งที่ 3 ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 ปี
เลซวนเหงีย รองประธานคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาการเงินแห่งชาติ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เปิดเผยว่า ได้เตือนเกี่ยวกับสภาพคล่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของเวียดนามเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะช็อก หลังจากที่ธนาคารกลางตัดสินใจลดค่าเงินด่องเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี จนยังผลให้ค่าเงินด่องอ่อนค่าลงอย่างฮวบฮาบเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
“ความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดในด้านนโยบายระดับมหภาค ก็คือเวียดนามจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านการเงิน ขณะนี้ดุลบัญชีเดินสะพัดยังขาดดุลในระดับสูง ขณะที่กลไกอัตราแลกเปลี่ยนกลับมีความยืดหยุ่นน้อยลง หากเวียดนามไม่ระมัดระวังอาจต้องเผชิญกับภาวะช็อกในสภาพคล่องของเงินตราต่างประเทศ” เล กล่าว
ขณะที่บริษัท เครดิต สวิส เตือนว่าการอ่อนค่าของเงินด่องถือเป็นความท้าทายสำหรับเวียดนาม และเสนอแนะว่าเวียดนามจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปค่าเงินอย่างเร่งด่วน พร้อมชี้ว่าเศรษฐกิจของเวียดนามยังไม่เกิดความสมดุลในการขยายตัวและเสถียรภาพระดับมหภาค
นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังไม่มีความเป็นอิสระจากการเมืองยังผลให้ความเชื่อมั่นต่อค่าเงินด่องถดถอยลง ส่งผลให้เวียดนามเสี่ยงกับการนำเข้าในปริมาณที่สูงจนเกินไป และภาวะเงินเฟ้อที่สูงเกินไป
สำหรับเงินด่องเมื่อ 19 ส.ค. อ่อนลงอย่างรุนแรงถึง 0.9% หลังจากที่อ่อนค่าไปแล้วหนึ่งวันก่อนหน้าที่ 1.1% มาอยู่ที่ 19,490 ด่องต่อเหรียญสหรัฐ นับเป็นการอ่อนค่าที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มรวบรวมสถิติโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อปี 2536 ขณะทเงินด่องในตลาดมืดดิ่งลงถึง 19,510 ด่อง
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางเวียดนามยังตรึงอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ 18,932 ด่องต่อเหรียญสหรัฐ
ธนาคารกลางตัดสินใจลดค่าเงินด่องลง 2% เมื่อวันที่ 17 ส.ค. และเมื่อเดือน ก.พ. ปรับลดลง 3.3% ต่อเนื่องจากเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งปรับค่าเงินลงถึง 5% เพื่อกระตุ้นการส่งออก หลังจากที่เวียดนามต้องเผชิญกับภาวะการขาดดุลการค้าอย่างรุนแรง
กระนั้นก็ตาม การลดค่าเงินเพื่อกระตุ้นการส่งออกกลับทำให้ค่าเงินด่องทิ้งตัวลงถึง 5.2% แล้วในปีนี้ และมีความเคลื่อนไหวที่ย่ำแย่ที่สุดในบรรดาสกุลเงิน 16 สกุลในเอเชีย ทั้งยังอาจอ่อนค่าลงอีกถึง 8.5% ในปีหน้าจากการประเมินของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ซึ่งการปรับค่าเงินด่องยังส่งผลให้ตลาดหุ้นเวียดนามมีภาวะการซื้อขายที่ย่ำแย่ที่สุดในโลกจากการสำรวจในเดือนนี้ด้วย


