พม่าระงับโครงการทุนไทย โรงไฟฟ้าถ่านหินมะริด

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

แม้การเปิดด่านสิงขร อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เชื่อมเมืองมะริด ของเมียนมา จะยังไม่ถึงขั้นจุดผ่านแดนถาวร แต่การลงทุนของไทยก็เข้าไปในมะริด และภาคตะนาวศรีของเมียนมากันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะโครงการใหญ่โรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 2,640 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งบริษัท ราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ลงนามบันทึกข้อตกลง หรือเอ็มโอยู ร่วมกับกระทรวงพลังงานไฟฟ้าเมียนมา โดยมีแผนส่งไฟฟ้าขายให้ประเทศไทย แต่ภายหลังกระแสต่อต้านของชาวเมืองมะริดตั้งแต่ช่วงปี 2555 ทำให้รัฐบาลนายพลเต็งเส่ง สั่งชะลอโครงการเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา

อาว พุก ตัวแทนชาวบ้านมเวชอง พื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในเมืองมะริดบอกว่า จากประสบการณ์ที่เคยได้ไปศึกษาโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใกล้ชายแดนจีน พบว่า สร้างผลกระทบอย่างมากทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เช่น ทารกแรกเกิดมีความผิดปกติทางร่างกาย มีอัตราการเสียชีวิตที่สูง ส่วนสตรีมีครรภ์ที่ได้รับมลพิษทั้งควันพิษ ทั้งน้ำเสียที่เกิดจากโรงไฟฟ้าจะมีสุขภาพอ่อนแอ ทำให้เด็กในครรภ์ได้รับอันตราย รวมทั้งผลต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ต้นไม้ไม่เจริญเติบโต ชาวบ้านจึงมั่นใจว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่เหมาะสม

“ผมคิดว่ายังไง โรงไฟฟ้าก็ไม่ได้จำเป็นไปกว่าการมีข้าวกิน มีผัก ผลไม้ มีแม่น้ำที่สะอาด การมีคนเจ็บตาย แต่ไฟฟ้าสว่างแจ้ง จะมีไปทำไมกัน ตอนนี้ก็ดีใจที่รัฐบาลประกาศชะลอ และถ้ามีโรงไฟฟ้าประเภทอื่นเข้ามาก่อสร้างภายหลัง ชาวบ้านจะขอดูก่อนว่ามันสะอาดพอไหม มีผลอย่างไรต่อชุมชน” อาว กล่าว

ขณะที่นักกิจกรรมทางสังคมในเมืองมะริด และเป็นอดีตนักศึกษากลุ่ม 88 ซึ่งเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมาปี 2531 เปิดเผยว่า รัฐบาลเมียนมาชุดปัจจุบันระงับโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินมะริดและโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมดทั่วประเทศแล้ว โดยรองมุขมนตรีภาคตะนาวศรีมีคำสั่งระงับการดำเนินโครงการที่มะริดตามคำสั่งรัฐบาล

เขาบอกว่า จังหวัดมะริด มีความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดเพียงประมาณ 5 เมกะวัตต์ และไม่เกิน 20 เมกะวัตต์ เพราะมีประชากรเพียง 1.5 ล้านคน ขณะนี้รัฐบาลเมียนมามีแผนในการสร้างระบบไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งมีการเดินสายส่งมายังรัฐมอญ แต่ภาคตะนาวศรียังเป็นพื้นที่ห่างไกล

“เมียนมาซึ่งมีโรงไฟฟ้าถ่านหิน 2 แห่ง คือ ที่เกาะสองตอนใต้สุดของเมียนมาและที่รัฐฉานตอนล่าง ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้หยุดดำเนินการแล้วทั้งสองโรง เนื่องจากประชาชนในพื้นที่คัดค้านอย่างหนัก แม้แต่โครงการใหญ่อย่างเขื่อนมิตส่งกั้นแม่น้ำอิรวดี ซึ่งเป็นการลงทุนจากจีนก็ยังต้องหยุด เพราะผลกระทบที่จะเกิดกับลุ่มน้ำอิรวดี ซึ่งเป็นจิตวิญญาณของประชาชนเมียนมา” อดีตนักศึกษากลุ่ม 88 ที่ผันตัวมาเป็นนักกิจกรรมทางสังคมในเมืองมะริดระบุถึงความคืบหน้าล่าสุดของโครงการพลังงานในเมียนมา

(หมายเหตุ : ขอขอบคุณสำนักข่ายขอบ http://transbordernews.in.th สำหรับข้อมูลและภาพจากเมืองมะริด)