ผู้เชี่ยวชาญชี้ฟอสซิลโบราณเป็นซากต้นไม้ หลังชาวบ้านลือเป็นงูยักษ์
ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยยูนนานชี้ซากฟอสซิลที่ถูกขุดพบในนครคุนหมิงเป็นซากต้นไม้ดึกดำบรรพ์ หลังชาวบ้านลือเป็นงูยักษ์
ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยยูนนานชี้ซากฟอสซิลที่ถูกขุดพบในนครคุนหมิงเป็นซากต้นไม้ดึกดำบรรพ์ หลังชาวบ้านลือเป็นงูยักษ์
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศ.เฝิงจัว อาจารย์พิเศษห้องปฏิบัติการหลักสัตว์และพืชดึกดำบรรพ์ศึกษาระดับปริญญาเอกของ มหาวิทยาลัยยูนนานระบุว่า ซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์ที่ชาวบ้านขุดพบบริเวณริมแม่น้ำเล็กๆ ในหมู่บ้านเหลาฉ่าง ตำบลผิงซ่าง อำเภอเจิ้นสยง นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน และมีการลือกันไปว่า เป็นฟอสซิลของงูหลามยักษ์ หรือบางคนถึงกับเชื่อว่าเป็นซากมังกรนั้น แท้จริงแล้วเป็น ซากดึกดำบรรพ์ของไม้กลายเป็นหินที่พบได้ทั่วไป โดยฟอสซิลดังกล่าวเป็นพืชชนิดหนึ่งในไฟลัมไลโคไฟตาที่สูญพันธุ์ไปแล้ว และเคยอยู่ในยุคคาร์บอนิเฟอรัส (Carboniferous) และยุคเพอร์เมียน (permian) จึงนับว่ามีความสำคัญต่อการศึกษาวิจัยในฐานะซากพืชที่ตกตะกอนและกลายเป็นถ่านหิน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้มีการเผยแพร่ภาพซากฟอสซิลที่มีความยาวประมาณ 130 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางยาว 17 ซม. มีสีดำและแข็ง โดยพื้นผิวมีลักษณะคล้ายเกล็ดเรียงต่อกันอย่างเป็นระเบียบผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้ชาวบ้านต่างลือกันไปว่าเป็นซากของงูยักษ์
อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพลงอินเทอร์เน็ต ซากดังกล่าวก็ได้ถูกลอบขโมยไป ทำให้ สำนักงานวัฒนธรรมอำเภอเจิ้นสยงรีบดำเนินการขุดชิ้นส่วนที่เหลือ ซึ่งหลังจากตรวจสอบแล้ว ก็พบว่าฟอสซิลชิ้นนี้เป็นซากของไม้ที่กลายเป็นหินในช่วงปลายยุคเพอร์เมียนเมื่อ 250 ล้านปีก่อน โดยพืชชนิดดังกล่าว สามารถเจริญเติบโตได้จนมีลักษณะสูงใหญ่ อาจสูงได้เกือบ 50 เมตร


