จีนเล็งสเตรสเทสต์โหด

ตั้งโจทย์ราคาบ้านหล่น60% รัฐผวาคุมไม่อยู่ฟองสบู่แตก

จีนเดินหน้าจัดการทดสอบความแข็งแกร่งธนาคารพาณิชย์ ตั้งโจทย์สมมติฐานราคาบ้านหล่นฮวบถึง 60%

บลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ว่า จีนจะเริ่มการทดสอบความแข็งแกร่งของบรรดาธนาคารพาณิชย์ภายใต้สมมติฐานที่ย่ำแย่มากขึ้นกว่าการทดสอบเมื่อปีที่แล้ว เพื่อประเมินความเสี่ยงของธนาคารพาณิชย์ว่าจะรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายได้มากแค่ไหนถ้าหากราคาอสังหาริมทรัพย์หล่นฮวบอย่างรุนแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นผู้กู้อย่างรุนแรง

คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารของจีนได้แจ้งไปยังธนาคารผู้ปล่อยกู้ให้ตั้งสมมติฐานในการทดสอบครั้งนี้ว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ ในเขตเมืองได้ตกฮวบฮาบลงไปถึง 5060% ซึ่งการทดสอบเมื่อปีที่แล้วนั้นอยู่บนสมมติฐานว่าจะลดลงไปที่ 30% เท่านั้น

ข่าวดังกล่าวได้สร้างความวิตกให้กับตลาดทุนในทันที โดยหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยดัชนีรวมซื้อขายหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับลดไปถึง 2.3% เป็นการปรับลดมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.

ทั้งนี้ การทดสอบที่รุนแรงขึ้นในครั้งนี้ยังถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าภาครัฐกำลังวิตกกังวลต่อสุขภาพของภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศอย่างหนักว่าอาจจะเกิดภาวะฟองสบู่แตกได้ ซึ่งที่ผ่านมานั้นคณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารของจีนได้เตือนไปยังธนาคารพาณิชย์ เป็นระยะๆ ว่า บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นผู้กู้นั้นอาจจะประสบกับภาวะหมดทุนได้ทุกเมื่อ

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า นอกเหนือจากที่ธนาคารจะได้รับแจ้งให้ดำเนินการทดสอบเงินกู้ในภาคอสังหาริมทรัพย์แล้ว ธนาคารยังได้รับแจ้งให้ทดสอบความแข็งแกร่งของการปล่อยกู้ในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น เหล็ก ซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ก่อสร้างบ้านอีกด้วย

ตั้งแต่กลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ควบคุมการปล่อยกู้ในภาคอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดจนเริ่มการกวาดล้างการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจัง หลังจากที่พบว่าราคาได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ราคาอสังหาริมทรัพย์มีอัตราการเติบโตมากผิดปกติถึง 68% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว