posttoday

เวียดนามบูมหลังทีพีพี

04 มีนาคม 2559

กูรูชี้ต่างชาติแห่ลงทุนหลังเวียดนามเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรี-อุตสาหกรรมสิ่งทอบูม

กูรูชี้ต่างชาติแห่ลงทุนหลังเวียดนามเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรี-อุตสาหกรรมสิ่งทอบูม

เว็บไซต์นิตยสารข่าว นิกเกอิ เอเชียนรีวิว เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในเวียดนามจะยิ่งดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในโครงการใหญ่ๆ ได้มาก หลังเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) ซึ่งนักลงทุนจะสามารถเข้ามาตั้งโรงงานในเวียดนามได้ง่ายขึ้น โดยในปัจจุบัน บริษัทด้านสิ่งทอในญี่ปุ่นเริ่มขยายการผลิตในเวียดนามแล้ว หลังร่วมลงนามข้อตกลงดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา

นิกเกอิ ยังระบุว่า ความสามารถในแข่งขันของเวียดนามเป็นส่วนที่ผลักดันให้กลายเป็นศูนย์ส่งออกสำคัญของโลกได้ในอนาคต เนื่องจากสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศได้มาก โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น นอกจากนี้การเข้าร่วมทีพีพี ยังทำให้โรงงานต่างๆ ในเวียดนามมีแรงจูงใจมากขึ้น สอดคล้องกับที่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายมองว่า การเข้าร่วมทีพีพีช่วยกระตุ้นการผลิตและการส่งออก รวมทั้งส่งเสริมการค้าทางเรือกับสหรัฐ โดยคุณภาพแรงงานฝีมือเป็นส่วนที่ทำให้เวียดนามได้เปรียบ แม้จะมีค่าแรงสูงกว่าในบังกลาเทศหรือเมียนมาร์

มูกูตะ ซาโตชิ กรรมการผู้จัดการอาวุโสของสภาธุรกิจญี่ปุ่น (ไคดันเรน) ระบุว่า ปัจจุบันมีธุรกิจของญี่ปุ่นดำเนินการในนครโฮจิมินห์ มากถึง 765 แห่ง ขณะที่หลายบริษัทวางแผนลดการผลิตในจีนเพื่อหันมาเพิ่มการลงทุนรูปแบบหุ้นส่วนธุรกิจในเวียดนามแทน

“เวียดนามถือเป็นประตูของญี่ปุ่นสู่ตลาดอื่นๆ ในอาเซียน และการบูรณาการทางเศรษฐกิจของอาเซียน เมื่อปลายปี 2015 ยิ่งเสริมบทบาทของเวียดนามในฐานะฐานการดำเนินการเพื่อขยายธุรกิจตามยุทธศาสตร์การสร้างห่วงโซ่อุปทานระดับโลก” ซาโตชิ กล่าว

นอกจากนี้ ซาโตชิ ยังระบุว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมสิ่งทอจากต่างชาติทำให้ภาคการผลิตของเวียดนามได้รับเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (เอฟดีไอ) มากที่สุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 4,180 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.48 แสนล้านบาท) ภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2015

ทั้งนี้ คุราเร่ เทรดดิ้ง บริษัทผู้ผลิตสิ่งทอรายใหญ่ของญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เตรียมลงทุนขยายฐานการผลิตในเวียดนามตอนกลาง ซึ่ง คุราเร่ คาดว่าจะลงทุนเป็นมูลค่า 300 ล้านเยน (ราว 93.44 ล้านบาท) ในปีนี้ โดยจะเป็นการใช้วัตถุดิบจากญี่ปุ่นมาผลิตในเวียดนามและส่งออกไปขายในสหรัฐ นอกจากนี้ คุราเร่ ยังพิจารณาลงทุนเพิ่มอีกหลายพันล้านเยนในโฮจิมินห์ด้วย

ขณะเดียวกัน การเข้าซื้อและควบรวมกิจการ (เอ็มแอนด์เอ) ในอุตสาหกรรมสิ่งทอของเวียดนามก็ขยายตัวขึ้นจากข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆ โดยสมาคมสิ่งทอเมืองโฮจิมินห์ (เอจีทีอีเค) เปิดเผยว่า การควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการท้องถิ่นไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการที่ขยายตัวขึ้นมาก เพราะขาดเงินทุนขยายโรงงาน ทำให้ต้องขายโรงงานบางส่วนให้นักลงทุนต่างชาติ

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอเวียดนามระบุว่า คาดว่าหลังการเข้าร่วมทีพีพี จะทำให้เวียดนามมีรายได้จากการส่งออกสิ่งทอจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปัจจุบัน โดยมีสหรัฐเป็นผู้นำเข้าสินค้าประเภทนี้มากที่สุด ซึ่งหลังทีพีพี ข้อจำกัดทางภาษีซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 17.5% จะลดลงไปเกือบเป็น 0 และคาดว่าการส่งออกภาคสิ่งทอของเวียดนามไปยังสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่าถึง 5.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.95 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2025

ข่าวล่าสุด

หลีกหนีความวุ่นวาย ฉลองปีใหม่สุดหรูบนเกาะส่วนตัวที่ นาคา ไอแลนด์