posttoday

เตือนสหรัฐระวังซ้ำรอย ทรัมป์มาแนวแบร์ลุสโคนี

29 กุมภาพันธ์ 2559

ผู้คร่ำหวอดในวงการการเมืองของอิตาลีมอง "โดนัลด์ ทรัมป์" อาจเดินตามรอย "ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี"

ผู้คร่ำหวอดในวงการการเมืองของอิตาลีมอง "โดนัลด์ ทรัมป์" อาจเดินตามรอย "ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี"

การเลือกตั้งขั้นต้นของสหรัฐเข้าสู่ช่วงเวลาระทึกใจ ก่อนจะถึงวันเลือกตั้งพร้อมกัน 13 รัฐที่เรียกกว่าซูปอร์ทิวส์เดย์ในวันที่ 1 มี.ค.นี้ ซึ่งหากผู้ชิงตำแหน่งตัวแทนของพรรคใด ได้คะแนนเสียงจากการเลือกตั้งรอบนี้มากที่สุด โอกาสที่จะเป็นตัวแทนพรรคไปสู้กันในรอบตัดเชือกช่วงปลายนี้ ก็มีโอกาสสูงจนแทบไม่ต้องแข่งกันในสนามอื่นๆ อีก

ล่าสุด ฮิลลารี คลินตัน ผู้ชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตคว้าในสนามเลือกตั้งรัฐเซาท์แคโรไลนาแบบถล่มทลายรวมแล้วได้ไป 3 ใน 4 รัฐ เช่นเดียวกับ โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน ที่ได้ไป 3 ใน 4 รัฐเช่นกัน และในช่วงหลังมีแนวโน้มที่ไทคูนมากสีสันรายนี้ จะกวาดคะแนนส่วนใหญ่มาเหมาแต่เพียงผู้เดียว แบบที่ผู้ท้าชิงคนอื่นแทบจะหมดสิทธิ์ทาบรัศมี

ตอนนี้เริ่มมีการพูดถึงกันว่าในเดือน พ.ย.นี้ เราอาจได้เห็นฮิลลาลีกับทรัมป์เป็นคู่ชิงในรอบตัดเชือก และหากเป็นเช่นนั้นจริง โอกาสที่ทรัมป์จะอาจกลายเป็นเซอร์ไพรส์ทางการเมืองของสหรัฐมีอยู่สูงมาก แม้ว่าเขาจะแสดงอาการโผงผาง พูดเหมือนไม่คิด และสื่อมักให้ภาพเขาเป็นตัวตลกก็ตาม

แต่มีเสียงเตือนจากผู้คร่ำหวอดในวงการการเมืองของอิตาลี แม้ทรัมป์จะดูเหมือนตัวตลกที่ไร้ความเก๋าทางการเมือง แต่เขาอาจกำลังเดินตามรอยอดีตนักการเมืองจอมเก๋าที่ถูกมองว่าคือตัวตลกอีกรายก็เป็นได้ เขาผู้นั้นคือ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรี 3 สมัยแห่งอิตาลี ผู้มากด้วยสีสันและลีลาที่ไม่เหมือนใคร

มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ทรัมป์ทำตัวให้ดูน่าตลกและไร้ความเฉียบคมในสายตาของหลายๆ คน ซึ่งแบร์ลุสโคนีก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน มักพูดโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ชอบเล่าเรื่องตลกฝืด และแสดงความร่ำรวยออกมาอย่างไม่มีรสนิยม แต่แล้วแบร์ลุสโคนีกลับชนะการเลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่า

การทำตัวให้ดูน่าขันของทรัมป์ในสายตาของผู้คร่ำหวอดทางการเมือง คล้ายๆ กับเจตนาของแบร์ลุสโคนี นั่นคือใช้ลีลาที่ดูแปลกไม่เหมือนใครแม้จะเป็นไปในทางลบ เพื่อเรียกร้องความสนใจของประชาชน ทำตัวให้อยู่ในกระแสสื่อ และสื่อก็ตอบสนองด้วยการรายงานข่าวเกี่ยวกับเขาตลอดเวลา ซึ่งส่วนมากเป็นข่าวในด้านไม่มี แต่ทำให้ประชาชนได้ยินชื่อของทรัมป์ตลอดเวลา นับเป็นกลวิธีด้านการตลาดแบบเก่าที่ยังใช้ได้ผล โดยแทบไม่มีใครจับสังเกตได้ทัน

ยังไม่มีข้อมูลที่ชี้ชัดว่าทรัมป์เรียนรู้แนวทางนี้มาจากแบร์ลุสโคนีหรือไม่ แต่ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันรายนี้ เคยเอ่ยปากบอกว่าชอบอดีตผู้นำอิตาลี ส่วน ไมเคิล เดย์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Being Berlusconi เผยกับ The Local สื่อในประเทศอิตาลีว่า ความเหมือนกันระหว่างทรัมป์กับแบร์ลุสโคนี คือทั้งคู่เป็นคนหยาบ ชอบทำตัวให้โดดเด่น และมีทรงผมที่เตะตา ที่สำคัญที่สุดคือเขาทั้งคู่มีเงิน

ทั้งสองคนมีพื้นเพมาจากภาคธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อนที่จะเริ่มสยายปีกเข้ามาคุมธุรกิจด้านสื่อ สิ่งที่ต่างกันคือ แบร์ลุสโคนีชอบที่จะคุมสื่อจากเบื้องหลัง ขณะที่ทรัมป์ชอบอยู่หน้าจอและลีลาของเขานั้นเหลือร้ายกว่าดารามืออาชีพเสียอีก

ทั้งคู่แสดงความเป็นเพลย์บอยอย่างไม่เหนียมอาย โดยเฉพาะแบร์ลุสโคนีเคยเผชิญกับข้อหาซื้อบริการทางเพศมาแล้ว ส่วนทรัมป์เป็นเป้าโจมตีอย่างกลุ่มสตรีนิยมเรื่อยมา เนื่องจากเขามักจะพูดจาไม่ค่อยจะให้เกียรติผู้หญิงเท่าไหร่นัก

ทรัมป์มักเอ่ยว่าผู้หญิงหลงใหลในตัวเขา ขณะที่สิ่งที่เขาหลงใหลจนไม่ยอมให้ใครแตะต้องคือทรงผมอันโดดเด่น เช่นเดียวกับแบร์ลุสโคนี ที่ใส่ใจทรงผมอย่างมากถึงกับผ่านการปลูกผมมาแล้วถึง 2 ครั้ง

ในทางการเมือง คนทั้งคู่ชูแคมเปญเลือกตั้ง โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะเป็นอัศวินม้าขาวช่วยสร้างความยิ่งใหญ่ให้ประเทศ ทั้งคู่ยังรู้จักใช้สื่อสังคมออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ อย่างทรัมป์มักโพสต์ข้อความประเภท "เรียกแขก" เสมอผ่านทางทวิตเตอร์ ซึ่งได้ผลเรื่อยมาเพราะสื่อมักหยิบไปรายงานต่ออยู่ตลอด ขณะที่แบร์ลุสโคนีไม่เน้นเขียนแต่ใช้ภาพอินสตาแกรมเป็นสื่อมากกว่า

ส่วนในด้านการเมืองระหว่างประเทศ แบร์ลุสโคนีและทรัมป์เป็นสหายที่ดีกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน โดยเฉพาะทรัพป์นั้น ปูตินถึงกับเอ่ยปากว่าจะเป็นผู้นำที่เฉียบแหลมและมากความสามารถ

นี่เป็นเพียงความเหมือนเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น หากในอนาคตทรัมป์คว้าชัยชนะสูงสุดขึ้นมา เขาอาจแสดงลีลาที่เหมือนแบร์ลุสโคนียิ่งกว่านี้ก็เป็นได้

ภาพ...เอเอฟพี

ที่มา www.m2fnews.com