posttoday

ผลวิจัยสื่อนอกมองไทย ลาวบวก-สิงคโปร์ลบ

08 ธันวาคม 2558

ปัจจุบันสื่อต่างๆ มีอิทธิพลต่อประชาชนเป็นอย่างมาก การรับรู้ว่าสื่อของประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนมองไทยอย่างไรก่อนเปิดประชาคมอาเซียน

โดย...รัชนีกร รัตนชัยฤทธิ์

ปัจจุบันสื่อต่างๆ มีอิทธิพลต่อประชาชนเป็นอย่างมาก การรับรู้ว่าสื่อของประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนมองไทยอย่างไรก่อนเปิดประชาคมอาเซียน อาจช่วยให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนไทย ปฏิบัติตัวต่อเพื่อนบ้านได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมมากขึ้น

รุจน์ โกมลบุตร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำกลุ่มวิชาหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยถึงงานวิจัยเรื่องมุมมองต่อประเทศไทยของลาว กรณีศึกษาจากหนังสือพิมพ์ “ประชาชน” หนังสือพิมพ์ของลาว ว่า สื่อลาวมุ่งนำเสนอเกี่ยวกับไทยในมุมบวกมากกว่ามุมลบ โดยเทียบเป็นอัตราส่วนให้เห็นดังนี้คือ มุมบวก 84.84% มุมลบ 7.68% และเป็นกลาง 7.51%

แหล่งข่าวที่นำเสนอเกี่ยวกับไทยมี 3 แหล่ง คือ ผู้สื่อข่าวลาว ข้าราชการลาว และกลุ่มเอกชนไทย โดยมุ่งนำเสนอไทยในบทบาทพันธมิตรด้านสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจและการเมือง โดยส่วนใหญ่จะนำเสนอเรื่องไทยในทิศทางบวกในทุกหน้าของหนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะหน้าหนึ่ง ด้านทิศทางลบปรากฏมากที่สุดในหน้าข่าวต่างประเทศ แต่ก็เป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับมุมบวกที่นำเสนอ

อย่างไรก็ตาม แม้ส่วนใหญ่หนังสือพิมพ์ประชาชนจะนำเสนอข่าวไทยในเชิงบวก เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับไทย แต่ความรู้สึกของประชาชนลาวที่มีต่อไทยไม่ได้เป็นไปตามการเสนอของสื่อเสมอไป เนื่องจากความขัดแย้งในอดีต เช่น กรณีพิพาทร่มเกล้าปี 2531

ทั้งนี้ คนไทยควรปรับตัวและทำให้คนลาวไว้วางใจ โดยนำเสนอเรื่องราวของลาวในฐานะพันธมิตรที่เท่าเทียมด้วย เช่น การใช้คำพูดของคนไทยที่เรียกลาวว่าเป็น “บ้านพี่เมืองน้อง” นั้น จริงๆ แล้วคนลาวเองมักเรียกไทยว่า “บ้านใกล้เรือนเคียง” มากกว่า

ด้าน เกศราพร ทองพุ่มพฤกษา อาจารย์ประจำกลุ่มวิชาหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มธ. เปิดเผยมุมมองของสิงคโปร์ที่มีต่อไทยผ่านการศึกษาจากหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษอย่าง “เดอะสเตรทไทมส์” หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่และได้รับความนิยมสูงสุดของสิงคโปร์

การศึกษาพบว่า เดอะสเตรทไทมส์นำเสนอข่าวเกี่ยวกับไทยใน 3 ทิศทาง คือทิศทางบวก กลาง ลบ โดยพบว่ามีการนำเสนอในเชิงลบมากที่สุด โดยเฉพาะเนื้อหาด้านการเมือง สิงคโปร์มองว่าไทยมีความขัดแย้งทางการเมือง มีการรัฐประหาร และไม่มีเสถียรภาพ แต่ในทางกลับกันสิงคโปร์ยังมองด้านเศรษฐกิจและสังคม วัฒนธรรมไทยในเชิงบวก

อีกกลไกสำคัญหนึ่งที่สำคัญในการสื่อสาร คือ ผู้สื่อข่าวสิงคโปร์ประจำประเทศไทย เนื่องจากข่าวที่หนังสือพิมพ์สิงคโปร์นำเสนอมาจากสำนักข่าวต่างประเทศ อาทิ เอพี รอยเตอร์ส

ขณะที่ มนต์ศักดิ์ ชัยวีระเดช อาจารย์ประจำกลุ่มวิชาโฆษณา คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มธ. เปิดเผยว่า ได้ศึกษาเฟซบุ๊กแฟนเพจ “Asean Community” เพื่อวิเคราะห์อัตลักษณ์ความเป็นชาติและความเป็นภูมิภาคของกลุ่มประเทศอาเซียนบนพื้นที่โลกเสมือน

เกณฑ์ที่ใช้วัดผลมี 3 ประการ คือ 1.หน้าที่ของเนื้อหาที่นำเสนอ 6 มิติ ได้แก่ การให้ข้อมูลทั่วไป การให้ข้อมูลการศึกษา การสะท้อนประเด็นสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมสัมพันธภาพ การนำเสนอข่าวสารทางธุรกิจ และการเสริมสร้างความเข้าใจทางวัฒนธรรม 2.ศึกษาความแตกต่างระหว่างอัตลักษณ์ของแต่ละประเทศและอัตลักษณ์ของประชาคมอาเซียนต่อนโยบายการสร้างอัตลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวบนพื้นที่โลกเสมือนเฟซบุ๊กแฟนเพจ Asean Community 3.ศึกษาการไหลเลื่อนของการทำหน้าที่ของเนื้อหาภายใต้เหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไป 4 เหตุการณ์ ได้แก่ เหตุการณ์กีฬาซีเกมส์ 2014 ที่เมียนมา เหตุการณ์เฉลิมฉลองวันมหาสงกรานต์ เหตุการณ์จากวาตภัยไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่ฟิลิปปินส์ และเหตุการณ์มาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบินเอ็มเอช 370

การศึกษาพบว่า ผลตอบรับของประชาชนในแต่ละประเทศเมื่อรับรู้เรื่องราวของประเทศอื่นก็เกิดความรู้สึกร่วมและอยากให้ความช่วยเหลือ เช่น เหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ จากข้อค้นพบสรุปได้ว่าอัตลักษณ์อาเซียนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริง แต่ดำรงควบคู่กับอัตลักษณ์ความเป็นชาติที่ยังคงทำงานควบคู่กันไป และปรับเปลี่ยนตามบทบาทที่แต่ละประเทศให้น้ำหนักไว้ตรงอัตลักษณ์ใดภายใต้บริบทไหน

สื่อออนไลน์อย่างเฟซบุ๊กแฟนเพจได้ลดความสำคัญของพรมแดนทางกายภาพลง การใช้อัตลักษณ์ภูมิภาคยังเป็นการลดทอนแรงเสียดทาน และลดการปะทะจากการแข่งขันระหว่างกัน เป็นอีกกลไกสำคัญในการทำงานร่วมกัน

ข่าวล่าสุด

ไทยเบฟคว้า 2 รางวัลอาหารจากเวที RED TABLE AWARDS 2025