posttoday

จีนนำร่องแรลลี่ท่องเที่ยว เส้นทางเศรษฐกิจ‘สี่แยกอินโดจีน’

14 กันยายน 2558

จุดเชื่อมโยงจากจีนตอนใต้ ผ่านประเทศลาว เข้าสู่ประเทศไทยทางด่านภูดู่ จ.อุตรดิตถ์ จนถึงสี่แยกอินโดจีนที่ จ.พิษณุโลก และมุ่งสู่ตะวันตก

โดย...ชินวัฒน์ สิงหะ

จุดเชื่อมโยงจากจีนตอนใต้ ผ่านประเทศลาว เข้าสู่ประเทศไทยทางด่านภูดู่ จ.อุตรดิตถ์ จนถึงสี่แยกอินโดจีนที่ จ.พิษณุโลก และมุ่งสู่ตะวันตก ออกสู่ประเทศเมียนมาที่ด่านแม่สอด จ.ตาก คือเส้นทางเศรษฐกิจ ทั้งการค้า การลงทุน ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตาก รวมทั้งเส้นทางการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยง 4 ประเทศ คือยุทธศาสตร์สำคัญที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 กำลังเร่งผลักดัน

ล่าสุดการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านเส้นทางสายนี้ ได้รับการตอบรับอย่างดีจากคณะแรลลี่จากมณฑลกว่างซีจ้วงหรือที่นิยมเรียกกันว่า กวางสี ประเทศจีน นำโดย เฉินลี่จี หัวหน้าฝ่ายกีฬามณฑลกวางสี นำข้าราชการ นักธุรกิจ คณะสื่อมวลชนจากมณฑลกวางสี เดินทางโดยรถยนต์จากเมืองหนานหนิงเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยรถยนต์จำนวน 30 คัน ผู้ร่วมเดินทาง 80 คน ผ่านประเทศเวียดนาม ประเทศลาว และเข้าสู่ประเทศไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา

ฐิติ วิศวชัยวัฒน์ ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชนกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 เปิดเผยว่า การเดินทางมายัง จ.พิษณุโลก โดยคณะแรลลี่จากมณฑลกวางสีครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงการเปิดเส้นทางกระชับความสัมพันธ์การท่องเที่ยวระหว่างประเทศจีน ไทย และกลุ่มประเทศอาเซียน

“คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนของ จ.พิษณุโลก ได้เล็งเห็นความสำคัญของการเปิดประตูเชื่อมโยงการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน เชื่อมโยงกลุ่มประเทศอาเซียนมาอย่างต่อเนื่องบนเส้นทางภูดู่-สี่แยกอินโดจีน-เมาะลำไย นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่ได้เริ่มมิตรภาพกับคณะผู้เดินทางทางจากมณฑลกวางสี”

ฐิติ บอกอีกว่า กลุ่มภาคเหนือตอนล่างและมณฑลกวางสี มีความร่วมมือกันมานานแล้ว โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนนักศึกษา

“มีนักศึกษาจีนจากมณฑลกวางสีร่วม 4,000 คน ได้เข้าเรียนศึกษาภาษาไทย ขณะที่ประเทศไทยเองโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ก็มีนักศึกษาจากจีนมาศึกษาจำนวนหนึ่ง เป็นการเตรียมความพร้อมในการเปิดเส้นทางการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน ระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศอาเซียน”

ฐิติ คาดหวังว่าความร่วมมือระหว่างไทยและจีนในการพัฒนาเส้นทางเศรษฐกิจสายนี้ต่อไปในอนาคตย่อมเป็นโอกาสอันดี ซึ่งไม่เพียงแต่เศรษฐกิจเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง แต่คณะแรลลี่จากจีนยังเตรียมเดินทางล่องใต้ต่อไปยังประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นโอกาสของภูมิภาค