ตีแผ่ชีวิตหญิงอังกฤษ ถูกพ่อแท้ๆข่มขืนตั้งแต่6ขวบ จนท้องถึง3ครั้ง!
ตีแผ่ชีวิตหญิงอังกฤษสุดรันทด ถูกพ่อแท้ๆข่มขืนตั้งแต่อายุ6ขวบ จนกระทั่งท้องถึง3ครั้ง และถูกทำร้ายจนแท้ง
ตีแผ่ชีวิตหญิงอังกฤษสุดรันทด ถูกพ่อแท้ๆข่มขืนตั้งแต่อายุ6ขวบ จนกระทั่งท้องถึง3ครั้ง และถูกทำร้ายจนแท้ง
เว็บไซต์ข่าวมิเรอร์ อังกฤษ ได้ตีแผ่ชีวิตสุดรันทดของนาง'จูดี แวน ไนเคิก' (Judy van Niekerk) หญิงชาวอังกฤษวัย 46 ปี ที่ถูกนาย'โนอา วอลช์'หรือผู้เป็นพ่อแท้ๆ ของเธอ กระทำทารุณกรรมและใช้แรงงานมาตั้งแต่เธออายุ 6 ขวบ หรือนับตั้งแต่คุณแม่ของเธอหนีออกจากบ้านเพราะทนพ่อของเธอไม่ไหว
จูดีเล่าให้ฟังว่า ทุกๆ คนมักจะมีความทรงจำที่ดีในตอนเด็ก เธอก็มีเหมือนกัน ตอนเด็กๆ พ่อมักจะพาเธอไปปิคนิคและสอนว่ายน้ำอยู่เสมอ จนกระทั่งเธออายุ 6 ขวบ แม่ได้หนีออกจากบ้านไปโดยทิ้งพ่อและลูกๆ ไว้ เพราะทนถูกพ่อทุบตีด่าทอไม่ไหว หลังจากนั้นพ่อของเธอก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
"พ่อให้ฉันลาออกจากโรงเรียนมาทำงานบ้านแทนแม่ทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่การเลี้ยงดูน้องๆ ทั้ง 5 คน ฉันต้องตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคน รวมถึงแพ็คอาหารกลางวันให้ ที่สำคัญเธอยังต้องซักผ้าของทุกๆ คนในบ้านด้วย" จูดี้กล่าว
จูดีเล่าว่า ทุกๆ หัวค่ำหลังจากเธอทำงานหนักมาทั้งวัน พ่อก็จะไม่ยอมให้เธอนอน โดยสั่งให้เธออยู่เป็นเพื่อนเขาจนเขาง่วง เขาจึงสั่งให้เธอไปนอนกับเขา และเริ่มทารุณกรรมทางเพศและข่มขืนเธอตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
"พ่อมักใช้มีดขู่ฉัน และชอบทุกตีฉัน หาว่าฉันมันเป็นปีศาจ ไร้ค่า และไม่สมควรที่จะได้รับความรักจากใคร เขาบอกว่าเขาต้องเสียสละทนมีชีวิตอยู่บนโลกนี้เพื่อช่วยเลี้ยงปากท้องฉันและน้องๆ" จูดี้กล่าว
ครั้งหนึ่งเมื่ออายุ 14 ปี พ่อยังเคยโกรธเธอจนเผลอลั่นปืนใส่เธอเข้าไปที่กลางอก โชคดีที่เพื่อนบ้านโทรศัพท์แจ้งโรงพยาบาลทันทำให้เธอรอดชีวิต ในขณะที่พ่อของเธอให้การเท็จว่าเธอเป็นคนเผลอทำปืนลั่นเอง
จูดีเล่าว่า เธอตั้งครรภ์กับพ่อแท้ๆ ของตัวเองถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกเธอถูกสั่งให้ทำงานหนักจนแท้ง ครั้งที่สองพ่อเธอต่อยเธอและทำร้ายเธอจนแท้งเนื่องจากไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่อง ครั้งที่สามเธอถูกสั่งให้ไปทำแท้งที่คลินิก
"ฉันถูกพ่อล้างสมอง ถูกด่าทอว่าไร้ค่าและเป็นคนผิดที่ตั้งท้อง ฉันรู้สึกแย่เหลือเกิน"
จนกระทั่งเมื่อ 20 ปี เธอได้ตัดสินใจหนีออกจากบ้าน และหนีไปอยู่เมืองลอนดอน ก่อนจะกัดฟันสู้และฝึกฝนจนได้งานเป็นนักบัญชี
ครั้งหนึ่งเธอได้มีโอกาสไปแอฟริกาใต้และพบกับชายผู้กลายเป็นสามีของเธอในปัจจุบันชื่อ'โทนี' โทนีได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดและสนับสนุนให้เธอไปแจ้งตำรวจเสีย
เมื่อตุลาคมค.ศ.2000 พ่อของเธอถูกดำเนินคดี โดยพ่อของเธอยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมด เขาให้การต่อศาลว่า "ผมและลูกสาวอยู่กินกันฉันสามีภรรยา เมื่อลูกสาวผมหนีไป โลกทั้งโลกของผมเหมือนพังทลาย"
พ่อของเธอได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 15 ปี
ปีค.ศ.2004 นางจูดีได้รับข้อความจากตำรวจว่าพ่อเป็นมะเร็งปอดและกำลังอยู่โรงพยาบาล เธอลังเลอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจไปหาพบเขา
"ถึงอย่างไรฉันก็เป็นห่วงเขา เพราะยังไงเขาก็เป็นพ่อที่สอนให้ฉันว่ายน้ำและเลี้ยงดูฉันจนโต ฉันได้บอกรักเขาเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็บอกว่ารักฉันเช่นกัน ฉันดีใจที่ได้มีโอกาสเจอเขาเป็นครั้งสุดท้าย ฉันยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่ค้างคาอะไรอีกแล้ว" จูดีทิ้งท้าย
ปัจจุบัน'จูดี แวน ไนเคิก'ประสบความสำเร็จจากการเป็นนักเขียนหนังสือขายดี วิทยากรและผู้ก่อตั้งสถาบันที่มุ่งส่งเสริมความเป็นผู้นำ
ที่มา : mirror


