ซิงก์โฮล หลุมธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
กัวเตมาลาก็ต้องเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติสุดสะพรึง เมื่อเกิดหลุมลึกกว้างประมาณ 20 เมตร ลึกประมาณ 30 เมตร ขึ้นบริเวณใจกลางสี่แยกในเขตเมืองใหม่
กัวเตมาลาก็ต้องเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติสุดสะพรึง เมื่อเกิดหลุมลึกกว้างประมาณ 20 เมตร ลึกประมาณ 30 เมตร ขึ้นบริเวณใจกลางสี่แยกในเขตเมืองใหม่
โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวภัยพิบัติในกัวเตมาลากลายเป็นสัญญาณเตือนภัยให้กับชาวโลก
เริ่มตั้งแต่การปะทุของภูเขาไฟปากายา อันเป็นเหตุให้กรุงกัวเตมาลาซิตีถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันและเถ้าถ่าน จนรัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน สนามบินต้องปิดทำการ และต้องอพยพผู้คนออกจากพื้นที่หลายพันคน
ล่าสุดกัวเตมาลายังเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ถูกพายุโซนร้อนอากาธาพัดเข้าถล่ม ส่งผลให้ฝนตกลงมาอย่างหนัก เกิดแผ่นดินถล่ม ประชาชนจำนวนมากถูกฝังอยู่ใต้โคลนตม เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
ไม่เพียงเท่านั้น ภายหลังจากมรสุมพายุอากาธาได้ผ่านพ้นไป กัวเตมาลาก็ต้องเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติสุดสะพรึง เมื่อเกิดหลุมลึกกว้างประมาณ 20 เมตร ลึกประมาณ 30 เมตร ขึ้นบริเวณใจกลางสี่แยกในเขตเมืองใหม่ของกรุงกัวเตมาลาซิตี
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีชื่อว่า “หลุมยุบ” (Sinkhole) หรือปรากฏการณ์ที่แผ่นดินยุบตัวลงไปใต้ดินเกิดเป็นหลุมลึกหลายสิบเมตร
ปรากฏการณ์ที่ดูดกลืนเอาชีวิตผู้คน บ้านเรือน และรถยนต์ให้หายลงไปใต้ดินในพริบตาได้สร้างความตระหนกตกใจให้กับชาวกัวเตมาลาที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น และสร้างความประหลาดใจให้กับนักธรณีวิทยาเป็นอย่างมาก
“ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งอยู่ที่ชั้นสองของบ้าน ฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่าบ้านของฉันถูกเขย่าไปทั้งหลัง” คาร์ลา มาลโดนาโด ชาวกัวเตมาลาผู้ซึ่งอาศัยอยู่ถัดจากบริเวณที่เกิดหลุมยุบไป 3 คูหาเล่าเหตุการณ์
ชายคนหนึ่งบอกกับหนังสือพิมพ์ เอล เปริโอดิโก ว่า ระหว่างที่เขากับพี่ชายกำลังเดินอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงดังมาจากใต้ดิน และไม่นานหลังจากนั้นพี่ชายของเขาก็ถูกดูดหายลงไป ชายคนดังกล่าวยังอ้างคำบอกเล่าของผู้คนในละแวกนั้นด้วยว่า พวกเขาเห็นแท็กซี่คันหนึ่งซึ่งกำลังแล่นผ่านบริเวณสี่แยกถูกดูดกลืนหายลงไปใต้ดินต่อหน้าต่อตา
เดวิด มอนเตอโรโซ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านธรณีวิทยาจากหน่วยงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีการเกิดหลุมยุบใจกลางกรุงกัวเตมาลาซิตีในครั้งนี้ว่า
“ผมบอกได้แต่เพียงว่านี่ไม่ได้เกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก และไม่ได้เป็นผลมาจากแผ่นดินไหว สิ่งที่เรารู้ในตอนนี้คือเราต้องลงไปดูข้างล่าง”
ประเด็นหนึ่งที่ยังคงค้างคาใจ และยังสร้างความกังวลให้กับผู้คนในละแวกนั้นก็คือ มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่หลุมยุบที่เกิดขึ้นจะขยายขนาด และดูดกลืนสิ่งก่อสร้างหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆ ในบริเวณนั้นลงไปเพิ่มมากขึ้น
เจมส์ เคอร์เรนส์ นักอุทกวิทยาจากมหาวิทยาลัยเคนทักกีในสหรัฐ ได้ช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวผ่านการให้สัมภาษณ์กับเนชันแนลจีโอกราฟฟิกว่า หลุมยุบจะขยายขนาดขึ้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับชั้นหินของพื้นผิวดินในบริเวณนั้นว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเคอร์เรนส์ก็สรุปว่าในที่สุดแล้วหลุมยุบที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะขยายขนาดและดูดกลืนสิ่งก่อสร้างต่างๆ เพิ่มขึ้นได้อีก
ข้อสรุปของเคอร์เรนส์นอกจากจะสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้คนในละแวกดังกล่าวแล้ว ยังเป็นอุปสรรคต่อความพยายามที่จะซ่อมแซม และฟื้นฟูหลุมยุบให้กลับมาเป็นพื้นผิวดินในสภาพปกติอีกด้วย เนื่องจากทางการกัวเตมาลาไม่สามารถดำเนินการซ่อมแซมหรือปรับปรุงพื้นผิวดินได้อย่างปลอดภัยจนกว่าจะแน่ใจได้ว่าหลุมยุบหยุดขยายขนาดแล้ว ซึ่งต้องอาศัยเวลาหลายวัน
แม้ว่าเหตุการณ์หลุมยุบที่เกิดขึ้นจะสร้างความตระหนกตกใจให้กับชาวกัวเตมาลาที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายเท่าใดนัก เนื่องจากพวกเขารับรู้ถึงความผิดปกติของพื้นดินในแถบนั้นมานานนับปีแล้ว
“เป็นเวลานานนับปีแล้วที่พวกเราได้ยินเสียงดังมาจากใต้พื้นดิน และถึงแม้ว่าประชาชนจะรายงานเรื่องนี้ให้ทางการทราบแล้ว แต่ก็ไม่มีใครมาดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้” คาร์ลา ดิอาซ ประชาชนชาวกัวเตมาลาซึ่งอาศัยอยู่ถัดจากบริเวณที่เกิดหลุมยุบไป 11 คูหาบอกกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
นอกจากนี้ ชาวกัวเตมาลาเองก็เคยประสบกับปรากฏการณ์หลุมยุบมาก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 2550 ซึ่งเกิดหลุมยุบขนาดความลึก 30 เมตร ขึ้น ณ ใจกลางกรุงกัวเตมาลาซิตี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุต้องถูกอพยพไปกว่า 1,000 คน
ปรากฏการณ์หลุมยุบที่เกิดขึ้นนอกจากจะสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับชาวกัวเตมาลาที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงแล้ว เครือข่ายชุมชนออนไลน์และผู้ที่ติดตามข่าวสารเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ตื่นตาตื่นใจ และเป็นกังวลกับเหตุการณ์นี้เช่นกัน
ถึงขั้นที่เกิดกระแสความคิดที่ว่าภาพถ่ายหลุมยุบกลางกรุงกัวเตมาลาที่นำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ทั้งในโทรทัศน์ และในอินเทอร์เน็ต หรือเว็บไซต์ต่างๆ เป็นของปลอม หรือเป็นภาพตัดต่อ เนื่องจากภาพที่ปรากฏนั้นดูน่าสะพรึงกลัว เป็นภาพที่ชาวโลกไม่ค่อยคุ้นเคยกันโดยทั่วไปนัก และเป็นสิ่งที่หลายคนคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในโลกแห่งความเป็นจริง
แต่ทว่าตามหลักการทางธรณีวิทยา หลุมยุบนั้นถือได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ “ธรรมดาๆ”
หน่วยงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐระบุว่า หลุมยุบเป็นปรากฏการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยทั่วไปในประเทศกัวเตมาลา และประเทศในภูมิภาคอเมริกาเหนืออยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณรัฐทางใต้ของสหรัฐ เช่น เทกซัส แอละแบมา มิสซูรี เคนทักกี เทนเนสซี และฟลอริดา ซึ่งมีรายงานว่าเกิดหลุมยุบขนาดเล็กนับร้อยครั้งตลอดปีที่ผ่านมา
หน่วยงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐยังระบุด้วยว่า ปรากฏการณ์หลุมยุบสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ในโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ชั้นหินใต้ผิวดินมีลักษณะเป็นหินปูน หินคาร์บอเนต หรือหินชนิดที่สามารถถูกละลายได้โดยน้ำใต้ผิวดิน
เมื่อใดก็ตามที่หินใต้ผิวดินถูกละลายจนเกิดเป็นโพรงหรือถ้ำขนาดใหญ่ใต้ผิวดิน และพื้นผิวของดินไม่สามารถรับน้ำหนักของสิ่งก่อสร้างที่กดทับอยู่ด้านบนไหว พื้นผิวดินก็จะพังทลายลงมาทำให้เกิดเป็นหลุมยุบ
สำหรับประเทศไทย ปรากฏการณ์การเกิดหลุมยุบก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดประหลาดแต่อย่างใด จากข้อมูลของกรมทรัพยากรธรณีซึ่งรวบรวมสถิติการเกิดหลุมยุบระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2547 ถึง 28 ก.พ. 2550 นั้นพบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวได้เกิดปรากฏการณ์หลุมยุบขึ้นในประเทศไทยกว่า 80 ครั้ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นทางภาคใต้ของประเทศไทย
ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล นักวิชาการด้านธรณีวิทยา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระบุว่า พื้นที่ในภาคใต้ของประเทศไทยนั้นมีโอกาสว่าอาจจะเกิดปรากฏการณ์หลุมยุบได้มาก เนื่องมาจากมีลักษณะทางกายภาพของชั้นหินใต้ดินคล้ายกับกัวเตมาลา คือเป็นหินปูน และตะกอนหินจับตัวไม่แน่น อย่างไรก็ตาม หลุมยุบที่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศไทยจะมีขนาดไม่ใหญ่เท่ากับที่เกิดขึ้นในกรุงกัวเตมาลาซิตี
สำหรับวิธีการสังเกตก่อนที่จะเกิดหลุมยุบนั้นผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ให้คอยสังเกตว่าในบริเวณใกล้เคียงมีหลุมยุบเกิดขึ้นอยู่ก่อนหรือไม่ หรือมีเสียงดังแปลกๆ เกิดขึ้นในบริเวณนั้นหรือไม่
*******************************
วิธีการในการซ่อมแซมหลุมยุบ
1.ขุดแล้วเติม
วิธีการนี้ ได้แก่ การขุดหลุมยุบ แล้วนำหินที่มีขนาดต่างกันมาเติมลงในหลุม|เป็นชั้นๆ ให้เต็ม โดยจะใช้หินที่มีขนาดใหญ่ หรือขนาดประมาณเท่ากับหัวกะหล่ำปลีเติมลงที่ชั้นล่างสุด
การซ่อมแซมหลุมยุบด้วยวิธีนี้ ชั้นของหินที่มีขนาดต่างๆ กันจะทำหน้าที่เสมือนเป็นลำดับชั้นของไส้กรองซึ่งมีความละเอียดต่างกันออกไป
2.ฉาบด้วยปูน
วิธีการนี้ทำได้โดยใช้เครื่องมือขุดเจาะชนิดพิเศษเจาะลงไป แล้วใช้ปูนซีเมนต์ฉาบเหนือบริเวณชั้นหินที่มีปัญหา เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นผิวดินหรือชั้นหินถูกดูดกลืนลงไปในหลุมยุบอีก
การซ่อมแซมหลุมยุบด้วยวิธีนี้ จะใช้เมื่อหลุมยุบมีความลึกมากเกินไป หรือตั้งอยู่ใกล้กับตัวอาคารหรือบ้านเรือนของประชาชนมากเกินไป ทั้งนี้วิธีการดังกล่าวมีข้อจำกัดคือทำให้พื้นผิวดินกลับไปใช้ประโยชน์เช่นเดิมไม่ได้อีก
3.สร้างจากฐาน
วิธีการนี้ทำได้โดยการติดตั้งตอม่อที่เป็นโลหะลงไปที่ชั้นหินปูนซึ่งอยู่ที่ฐานราก
การซ่อมแซมหลุมยุบด้วยวิธีนี้เหมาะกับบ้านเรือนหรือที่พักอาศัยที่ได้รับผลกระทบจากหลุมยุบ เนื่องจากจะกระทบกับความมั่นคงของโครงสร้างอาคารน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม เจ้าของบ้านอาจจะต้องรื้อถอนพื้นของตัวบ้านออกเพื่อทำการติดตั้งตอม่อลงไปใต้ดิน


