posttoday

ชาวพม่าในจอแก้วไทยภาพซ้ำ"ไม่ใช่"ตัวตนจริง

27 กุมภาพันธ์ 2557

ละครที่ทำซ้ำออกมาไม่ว่ากี่รอบ ยังคงแบ่งชนชั้น แบ่งแยกไทย-พม่า ทำให้มีความไม่เท่าเทียม

โดย...ตะวัน หวังเจริญวงศ์

แม้อาเซียนจะต้องรอรวมตัวเป็นประชาคมอย่างเต็มรูปแบบในปี 2558 แต่ความเป็นสังคมของผู้คนในอาเซียน ได้แฝงเข้ามาอยู่ในสื่อบันเทิงของแต่ละประเทศก่อนหน้านั้นนานแล้ว เช่น ทางวรรณกรรม ละครโทรทัศน์

ชาวอาเซียนชาติหนึ่งที่ปรากฏตัวในละครไทยมากที่สุด คือชาวพม่า แต่การปรากฏตัวของชาวพม่า อาจสะท้อนภาพความสัมพันธ์ไทย-พม่า แตกต่างกับความสัมพันธ์ไทย-อาเซียนชาติอื่นพอสมควร พร้อมแสดงทัศนคติบางอย่างของคนไทยต่อคนพม่าไปพร้อมกัน

อัจฉรา รัศมีโชติ จากหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เล่าในงาน “อาเซียนป๊อปคัลเจอร์” จัดโดยศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ว่า พม่าถือเป็นเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อไทยยาวที่สุดในอาเซียน แต่แทบไม่เคยรู้จักกัน สิ่งที่รู้จักกันมีเพียงอคติจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ เธอจึงเลือกวิจัยละครไทย 3 ประเภท รวมจำนวน 6 เรื่อง เพื่อศึกษาภาพตัวแทนของพม่าที่สร้างผ่านตัวบทละครโทรทัศน์ไทย

เริ่มจากประเภทแรก ละครที่มีเนื้อหาอิงประวัติศาสตร์ เธอเลือกศึกษา 2 เรื่อง ได้แก่ 1.ขุนศึก ปี 2555 และ 2.สายโลหิต เวอร์ชั่นปี 2538 ภาพชาวพม่าที่ปรากฏในเรื่อง หนีไม่พ้นชายสวมผ้าโพกศีรษะและใส่โสร่ง ภาพดังกล่าวกลายเป็นภาพแรกๆ เมื่อเรานึกถึงชาวพม่า ขณะที่ผู้หญิงพม่าจะไม่ค่อยปรากฏในละครไทยกลุ่มนี้มากนัก

ฉากที่เกี่ยวข้องกับสมัยกรุงศรีอยุธยา มักจะเน้นเรื่องความโหดร้ายของชาวพม่า การเข้ามาเผาบ้านเผาเมือง เผาพระพุทธรูป ส่งผลให้คนที่ดูอาจรู้สึกเจ็บแค้นมากเป็นพิเศษ และมีความเชื่อว่าพระเจดีย์ชเวดากอง ลอกมาจากทองของไทยในยุคนั้น”

ชาวพม่าในจอแก้วไทยภาพซ้ำ"ไม่ใช่"ตัวตนจริง

สำหรับอุปนิสัยของชาวพม่าในละครกลุ่มนี้ มักออกมาดูดุดัน โผงผาง ไม่ค่อยมีเหตุผล เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นทหารและกำลังอยู่ในช่วงการรบ ความสัมพันธ์กับตัวละครไทยจึงเป็นไปในรูปแบบ “ขัดแย้ง” อย่างชัดเจน

ข้ามมาที่ละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก อัจฉราศึกษาเรื่องทาสรัก ปี 2554 และเรื่องรักเดียวของเจนจิรา ปี 2539 ซึ่งละครไทยเรื่องเดียวที่ไปถ่ายในประเทศพม่าจริงๆ ลักษณะของชาวพม่าที่ปรากฏในเรื่อง หากเป็นผู้หญิงในหมู่ชนชั้นสูง มักไว้ผมยาว ติดดอกไม้ไว้ที่ผม มีวิธีแต่งกายที่ทำให้สัมผัสได้ว่าไม่น่าใช่คนไทยแน่ๆ ขณะที่คนทั่วไปจะนุ่งโสร่งและทาแป้งทานาคา

ในแง่อุปนิสัยจะไม่มีภาพความดุร้ายแบบละครกลุ่มแรก จะดูอ่อนโยนกว่าอย่างชัดเจน

ชาวพม่าในจอแก้วไทยภาพซ้ำ"ไม่ใช่"ตัวตนจริง

ขณะที่ละครกลุ่มสุดท้าย คือละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคนชายขอบ เธอศึกษาเรื่องเก็บแผ่นดิน ปี 2544 และธาราหิมาลัย ปี 2553 ภาพพจน์ของตัวละครจะแตกต่างจากทั้ง 2 กลุ่มแรก บางคนอาจเป็นสาวใช้ที่พูดไม่ชัด ไม่ได้ใส่ชุดที่แสดงลักษณะของคนพม่า แต่มีท่าทางแสดงให้สัมผัสได้ว่าคนนี้ไม่ใช่คนไทย ในกลุ่มนี้คนพม่าจะทำหน้าที่ชูโรงให้เรื่องสนุกมากขึ้นเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวเดินเรื่องหลักเช่น 2 กลุ่มแรก

อัจฉรา เสริมว่า ชื่อตัวละครพม่าจะฟังแล้วสัมผัสได้ทันทีว่ามีกลิ่นอายความเป็นพม่า บางชื่ออาจเป็นที่คุ้นเคย เพราะเคยได้ยินมาจากตำราประวัติศาสตร์ เช่น พระเจ้านันทบุเรง หากเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาใหม่ก็จะไม่เหมือนชื่อไทย เช่น มินทะดา อองดี ชื่อคือสิ่งแรกที่สะท้อนว่าตัวละครนี้ไม่ใช่คนไทย

“ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครชาวไทยและตัวละครชาวพม่าในทั้ง 3 กลุ่ม จะปรากฏในลักษณะปรองดองสำหรับเรื่องเกี่ยวกับความารัก ขัดแย้งในเรื่องอิงประวัติศาสตร์ และกดทับในเรื่องเกี่ยวกับคนชายขอบ”

อัจฉรา ชี้ว่า ภาพส่วนใหญ่ของชาวพม่าในละครมาจากการเหมารวมว่าชาวพม่าต้องเป็นแบบไหน แต่งตัวอย่างไร แต่ผู้ที่มีประสบการณ์กับชาวพม่าจริงๆ หลายคนยังคงไม่เห็นด้วยว่าลักษณะ ชื่อ อุปนิสัย ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างไทย-พม่า เป็นอย่างที่ละครสื่อสารออกมา

จากการดูละครที่มีชาวพม่าปรากฏจนถึงปี 2556 รวมจำนวน 28 เรื่อง เธอพบว่ามีการผลิตภาพตัวแทนของชาวพม่าขึ้นมาแบบซ้ำๆ เดิมๆ และภาพที่ออกมาคือภาพคนพม่าที่ดูด้อยกว่าคนไทยเสมอ ทำให้ชาวพม่าเป็นแค่ “ชาวพม่าในอดีต” ไม่ใช่ชาวพม่าในปัจจุบันซึ่งก็ “กรี๊ด” ดาราเกาหลีเหมือนคนไทย

"ละครที่ทำซ้ำออกมาไม่ว่ากี่รอบ ยังคงแบ่งชนชั้น แบ่งแยกไทย-พม่า ทำให้มีความไม่เท่าเทียม ทำให้ความร่วมมือในประชาคมอาเซียนนอกเหนือจากมิติเศรษฐกิจเกิดขึ้นได้ยาก หวังว่าผู้ผลิตละครและรัฐบาลจะช่วยกันลบมายาคติเกี่ยวกับชาวพม่าในละครไทย สร้างละครใหม่ๆ ที่ให้ภาพชาวพม่าที่ถูกต้องกว่านี้”

ชาวพม่าในจอแก้วไทยภาพซ้ำ"ไม่ใช่"ตัวตนจริง

 

ชาวพม่าในจอแก้วไทยภาพซ้ำ"ไม่ใช่"ตัวตนจริง

 

ข่าวล่าสุด

เปิดภาพคุมตัว "น.ส.ลัก" สอบเข้ม ปมบังคับลูกสาววัย 12 ค้ากามญี่ปุ่น