พม่าเร่งดึงต่างชาติลงทุนแปรรูปไม้
พม่าจ่องดส่งออกไม้ซุง ดึงต่างชาติลงทุนแปรรูป ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ไทยในพม่าไม่สะเทือน
พม่าจ่องดส่งออกไม้ซุง ดึงต่างชาติลงทุนแปรรูป ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ไทยในพม่าไม่สะเทือน
นายอภิวิทย์ พงศ์เภทรารัตน์ เจ้าของบริษัท ธาราภู เดคอร์ ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ในประเทศพม่า เปิดเผยถึงผลกระทบจากกฎหมายลดจำนวนการตัดไม้สักและห้ามส่งออกไม้ซุง ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้ ว่า จะเป็นการดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปไม้สักในประเทศพม่ามากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันมีผู้ประกอบการต่างๆ ไม่เกิน 5 ราย เช่น ไทย ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น
สำหรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมของพม่า เพราะจะส่งเสริมให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ไม้สักในประเทศ สร้างงาน และส่งเสริมการลงทุน แต่ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากพม่ายังมีปัญหาด้านกฎระเบียบ ระบบสาธารณูปโภค ที่ยังไม่เอื้อต่อการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้าไปมากนัก
ขณะเดียวกันนโยบายดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ไทยในพม่าหาวัตถุดิบได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังส่งออกสินค้าแปรรูปไม้สักได้ตามปกติ แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะเป็นโรงเลื่อย หรือผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่พึ่งพาวัตถุดิบไม้ซุงจากพม่า ซึ่งจะต้องหาแหล่งวัตถุดิบจากที่อื่นเข้ามาเสริม ขณะที่การลดจำนวนการตัดไม้สักนั้น ผู้ประกอบการสามารถนำวัตถุดิบจากป่าปลูกในประเทศอื่นมาใช้ได้
อย่างไรก็ตาม ไม้สักจากพม่ามาจากป่าธรรมชาติเกือบทั้งหมดถือว่าเป็นไม้สักคุณภาพดี โดยทางการพม่าได้มีการจัดระบบการตัดไม้อย่างยั่งยืน มีการสำรวจปริมาตรไม้ในช่วง 1 ปี ว่าจะสามารถตัดมาใช้ได้เท่าใด มีการกำหนดโควตาการตัดเพื่อไม่ให้ปริมาณป่าลดลง ขณะที่ป่าปลูกในพม่ายังมีน้อยมากและมีเอกชนเป็นเจ้าของ ซึ่งเริ่มดำเนินการได้ไม่กี่ปี
ทั้งนี้ หลังกฎหมายห้ามส่งออกไม้ซุงมีผลในเดือน เม.ย. พม่าจะอนุญาตให้ส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูปและกึ่งแปรรูปเท่านั้น ขณะเดียวกันจะขยายเวลาใบอนุญาตดำเนินกิจการโรงเลื่อยไม้และไม้อัด รวมทั้งโรงงานที่เกี่ยวกับไม้จาก 1 ปี เป็น 5 ปี


