Kishida สั่งสอบเข้ม ‘ลัทธิมูน’ โยงสมาชิกพรรค
นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นได้สั่งสอบสวน "โบสถ์แห่งความสามัคคี" หรือ ลัทธิมูน หลังมีการแฉว่าคนในพรรครัฐบาลเกินครึ่งข้องเกี่ยวกับลัทธิดังกล่าว
นับตั้งแต่การลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม สหพันธ์ครอบครัวเพื่อความสามัคคีและสันติภาพโลก ( Family Federation for World Peace and Unification) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "โบสถ์แห่งความสามัคคี" (Unification Church) ก็ตกเป็นเป้าถูกสืบสวนอย่างหนัก โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นได้สั่งสอบสวนลัทธิที่มีต้นกำเนิดมาจากเกาหลีใต้นี้ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากสาธารณชน เนื่องจากมีสมาชิกพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ข้องเกี่ยวกับลัทธิจำนวนมาก
การแถลงดังกล่าวได้บ่อนทำลายความเชื่อมั่นของสาธารณชนที่มีต่อรัฐบาล ส่งผลให้คะแนนนิยมต่อรัฐบาลคิชิดะ ร่วงลงมาอยู่ที่ 35 เปอร์เซ็นต์ นับว่าต่ำสุดตั้งแต่ที่คิชิดะเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมา
‘เท็ตสึยะ ยามากามิ’ มือปืนผู้ทำการลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะเชื่อว่า อาเบะเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนลัทธินี้ เป็นเหตุให้ครอบครัวของเท็ตสึยะต้องประสบกับปัญหาทางการเงิน เพราะแม่ของเขาเป็นหนึ่งในสาวกของลัทธิมูน และขนเงินไปบริจาคให้โบสถ์กว่า 100 ล้านเยน (672,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ)
คิชิดะย้ำว่าจำนวนผู้เสียหายที่เชื่อมโยงกับโบสถ์เจ้าปัญหามีจำนวนมาก ตนพร้อมเอาจริง กับข้อกล่าวหาที่ว่าโบสถ์แห่งนี้ได้ขูดรีดและสร้างปัญหาครอบครัวต่อสมาชิกของโบสถ์ และสัญญาจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ
ทางด้านโบสถ์แห่งความสามัคคี มีผู้ติดตามราว 100,000 คนในญี่ปุ่น ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Committee) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่าน โดยอ้างว่าคริสตจักรตกเป็นเหยื่อของการเลือกปฏิบัติ และการกดขี่ข่มเหงในญี่ปุ่น


