ลุยชิงดำ 9 รัฐสวิงสเตต "โอบามา" ลุ้นเฉือน "รอมนีย์"

“โอบามา-รอมนีย์” เร่งชิงชัยโค้งสุดท้ายในรัฐสวิงสเตตก่อนถึงวันเลือกตั้งชี้ชะตา ผลสำรวจชี้โอบามานำแต่คะแนนไม่ทิ้ง หวั่นซ้ำรอยคู่ “บุชกอร์” เหมือนปี 2553

ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ของสหรัฐ และมิตต์ รอมนีย์ ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน ต่างใช้เวลาในวันสุดท้ายก่อนถึงศึกชี้ชะตาประธานาธิบดีสหรัฐ วันที่ 6 พ.ย. เร่งหาเสียงกันอย่างสุดตัวในหลายรัฐสวิงสเตต ซึ่งชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ชี้ชะตาว่าใครจะได้ขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐคนต่อไป เนื่องจากเป็นรัฐที่ยังไม่มีพรรคใดได้คะแนนนิยมนำแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แม้ว่าโอบามาจะมีคะแนนนำอยู่เล็กน้อยในโพลหลายสำนักก็ตาม

โอบามาได้หาเสียงโค้งสุดท้ายที่รัฐวิสคอนซิน พร้อมกับศิลปินดังอย่าง บรูซ สปริงทีน ก่อนจะลงพื้นที่ต่อในรัฐโอไฮโอและไอโอวา ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านในนครชิคาโก

“ผมต้องการเสียงของคุณ โอไฮโอ หากคุณต้องการทำงานร่วมกับผม และตัดสินใจเลือกผม หากคุณต้องการลงคะแนนล่วงหน้าให้ผม โทรชักชวนให้คนไปลงคะแนนให้ผมและโหวตให้ผม เราจะชนะไปด้วยกัน โอไฮโอ เราจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้” โอบามา กล่าวต่อฝูงชนราว 2 หมื่นคน ที่มาร่วมฟังการรณรงค์หาเสียงในเมืองซินซินเนติ

ขณะที่รอมนีย์ได้สร้างความประหลาดใจให้ทุกฝ่ายด้วยการไปเจาะฐานเสียงของเดโมแครตที่รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐที่พรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะมาตลอด ก่อนที่จะเดินทางไปหาเสียงต่อในรัฐฟลอริดา เวอร์จิเนีย และโอไฮโอ และสิ้นสุดในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ซึ่งเป็นรัฐแรกที่เริ่มการรณรงค์หาเสียงเมื่อ 18 เดือนก่อนโอไฮโอ เช่นเดียวกับโอบามา

“เราจะเข้าไปนั่งในทำเนียบขาว เพราะเราจะเป็นผู้ชนะในเพนซิลเวเนีย” รอมนีย์ กล่าวต่อผู้มาฟังการปราศรัยราว 3 หมื่นคน

เอพีระบุว่าจนถึงขณะนี้ โอบามามีคะแนนนำอยู่ในรัฐวิสคอนซินและไอโอวา ส่วนรอมนีย์มีคะแนนนำในรัฐฟลอริดา เวอร์จิเนีย และนิวแฮมป์เชียร์ ขณะที่เว็บไซต์การเมืองโพลิติโคดอตคอมนั้น ยกให้โอบามามีคะแนนนำเหนือรอมนีย์ ในส่วนของอิเล็กโทรัลโหวตของ 9 รัฐ สวิงสเตต ที่ 66 ต่อ 44 คะแนน

เป็นที่คาดว่ารัฐโอไฮโอ ซึ่งยังไม่มีฝ่ายใดมีคะแนนนำเด็ดขาด และเป็นรัฐสุดท้ายที่ผู้สมัครทั้งฝ่ายตัดสินใจไปหาเสียงนั้น จะเป็นพื้นที่ตัดสินชี้ขาดสำคัญในการเลือกตั้งที่ได้ชื่อว่าขับเคี่ยวกันอย่างสูสีที่สุดครั้งหนึ่ง ในปี 2555 นี้ โดยที่ผ่านมานั้นไม่เคยมีผู้แทนของพรรครีพับลิกันที่ได้เป็นประธานาธิบดีโดยไม่ชนะในรัฐนี้มาก่อน

ทางด้านโพลระดับชาติหลายสำนัก ซึ่งสำรวจเมื่อวัน5 พ.ย.เป็นครั้งสุดท้ายนั้น โพลของเอ็นบีซีร่วมกับวอลสตรีต เจอร์นัล ให้โอบามานำรอมนีย์ 48% ต่อ 47% โดยบวกลบที่ 2.55% ขณะที่ผลสำรวจของเอพีระบุว่า หากมีการเลือกตั้งขึ้น ณ ปัจจุบันที่ทำการสำรวจ โอบามาจะชนะรอมนีย์ไปด้วยคะแนนอิเล็กโทรัลโหวต 249 ต่อ 206 คะแนน

ภายใต้ระบบการเลือกตั้งของสหรัฐนั้น สัดส่วนคะแนนชี้ขาดผู้ชนะไม่ได้ตัดสินจากคะแนนเสียงโหวตของประชาชนทั่วประเทศ หรือป๊อปปูลาร์โหวต แต่จะมาจากสัดส่วนของคณะผู้เลือกตั้ง หรืออิเล็กโทรัลโหวต ซึ่งวัดจากสัดส่วนประชากรและจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภาคองเกรสของรัฐนั้นๆ ส่งผลให้ทั้ง 9 รัฐ สวิงสเตต ที่ยังไม่มีพรรคใดมีคะแนนนำแบบทิ้งห่าง กลายเป็นพื้นที่ตัดสินที่โอบามาและรอมนีย์ ต้องเร่งหาเสียงโค้งสุดท้ายเพื่อชิงคะแนนอิเล็กโทรัลโหวต 110 เสียง จาก 270 เสียงทั่วประเทศ มาครองให้ได้มากที่สุด

คะแนนนิยมที่ไล่กันมาแบบหายใจรดต้นคอครั้งนี้ ส่งผลให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า อาจทำให้การเลือกตั้งปี 2555 ย้อนกลับไปเหมือนเมื่อครั้งการเลือกตั้งในปี 2533 ซึ่งคะแนนอิเล็กโทรัลโหวตในรัฐฟลอริดา คือ จุดชี้ขาดให้ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช จากพรรครีพับลิกัน ได้รับชัยชนะเหนืออดีตรองประธานาธิบดี อัล กอร์ จากพรรคเดโมแครต แม้ว่ากอร์จะมีคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตจากทั่วประเทศมากกว่าก็ตาม

ทางด้านพรรคเดโมแครตระบุว่า มั่นใจว่าประธานาธิบดีสหรัฐมีคะแนนนำอยู่เล็กน้อยในบรรดารัฐสวิงสเตต แต่ก็ยอมรับเช่นกันว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลโหวตในวันเลือกตั้งจริง

ขณะที่ เดวิด พลูฟ ที่ปรึกษาการเลือกตั้งของโอบามา ระบุว่า คะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในรัฐโอไฮโอและฟลอริดาที่โอบามานำอยู่เล็กน้อยนั้น เป็นตัวชี้ชัดสำคัญว่าผู้แทนจากเดโมแครตจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งจะทำให้โอบามาเป็นผู้แทนพรรคคนแรกที่ได้เป็นประธานาธิบดี 2 สมัย นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา