สหรัฐยิงจมเรือผีสึนามิชี้เป็นภัยต่อการเดินเรือ

หน่วยชายฝั่งสหรัฐตัดสินใจยิงจมซาก “เรือผีสึนามิ” ของญี่ปุ่น หลังถูกคลื่นสึนามิซัดลอยไปไกลถึงน่านน้ำอะแลสกา จนอาจเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ

หน่วยยามชายฝั่งเมืองจูโน รัฐอะแลสกาของสหรัฐใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง ในการระดมยิงปืนใหญ่เข้าใส่เรือประมง “เรียวอัน มารุ” หรือเรือผีสึนามิญี่ปุ่น เพื่อให้จมลงสู่ก้นอ่าวอะแลสกาและไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการสัญจรทางทะเล หลังเรือประมงลำดังกล่าวถูกคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มที่ญี่ปุ่นเมื่อปีก่อน พัดลอยลำข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมายังน่านน้ำทวีปอเมริกาเหนือ นอกชายฝั่งรัฐบริติชโคลัมเบียของแคนาดาเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

“ในช่วงเช้าหน่วยยามชายฝั่งได้กระหน่ำยิงเรืออย่างหนัก ส่งผลให้เกิดไฟไหม้และการเอียงเล็กน้อย หลังจากนั้นในช่วงบ่ายหน่วยยามชายฝั่งได้กระหน่ำยิงอีกรอบจนในที่สุด เรือจมเมื่อเวลา 16.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา” จ่าเอกคิพ วัดโลว์ หัวหน้าหน่วยยามชายฝั่งเมืองจูโน กล่าวพร้อมกับเผยภาพเรือขณะมีควันสีดำลอยออกมา

ปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นหลังผู้เชี่ยวชาญออกโรงเตือนว่า เรือผีสึนามินั้นอาจเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ

“เรือลำนี้ ซึ่งมีความยาวประมาณ 150-200 ฟุต กำลังลอยอยู่กลางทะเลโดยปราศจากการควบคุมของมนุษย์และขณะเดียวกันก็ไม่มีไฟ ส่งผลให้ในเวลากลางคืนอาจเป็นอันตรายสำหรับเรือลำอื่นได้” ซารา ฟรานซิส โฆษกยามชายฝั่งอะแลสกา กล่าว

เจ้าหน้าที่จึงได้ติดต่อบริษัทเจ้าของเรือ ซึ่งยืนยันว่าไม่ต้องการเรือคืน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พยายามกู้ซากเรือ แต่หลังสำรวจเรือแล้วก็ตัดสินใจยุติปฏิบัติการดังกล่าวและหันมาจมเรือแทน โดยยืนยันว่าเรือลำดังกล่าวไม่เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อม เนื่องจากหากยังมีเชื้อเพลิงหลงเหลืออยู่ก็คาดว่าจะเป็นน้ำมันดีเซล ซึ่งสามารถสลายตัวได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ เรือผีสึนามิถือเป็นเศษขยะจากเหตุสึนามิชิ้นใหญ่ที่สุดที่ถูกพัดไปติดชายฝั่งของสหรัฐ โดยคลื่นสึนามิที่ซัดถล่มชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เมื่อปีก่อนส่งผลให้เศษขยะกว่า 20 ล้านตัน ลอยออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิก