3ยอดขุนพล แผ่นดินเดือด (2)
ปัญหาศึกสงครามของโอดะ โนบุนากะ ใช่จะมีเพียงแต่ศึกสงครามภายนอกเท่านั้น เพราะหลังจากเสร็จศึกทลายป้อมมารุคิได้ไม่นาน ศึกภายในตระกูลโอดะก็ได้อุบัติขึ้น คราวนี้น้องชายของโนบุนากะชื่อโนบุยุกิ ได้ถูกโนบุโทโมะ เจ้าครองปราสาทคิโยสึ ญาติห่างๆ ยุยงให้แย่งชิงตำแหน่งเจ้าแคว้น โดยวางแผนให้ชิบะ โยชิมุเนะ ที่อยู่ในตำแหน่งขุนพิทักษ์นคร ป็นตำแหน่งที่แต่งตั้งโดยโชกุนไม่ขึ้นตรงกับเจ้าแคว้น ลอบสังหารโนบุนากะ แต่โยชิมุเนะกลับนำแผนสังหารไปแจ้งต่อโนบุนากะ ซึ่งการเผยแผนลับได้ล่วงรู้ถึงหูของโนบุโทโมะ โนบุโทโมะที่โกรธแค้นจึงได้สั่งให้นายกองอาศัยจังหวะที่ ชิบะ โยชิคาเนะ บุตรชายของโยชิมุเนะนำกำลังทหารออกไปราชการนอกปราสาทบุกสังหารโยชิมุเนะเสีย แล้วเมื่อโยชิคาเนะได้ข่าวการบุกสังหารบิดาโดยโนบุโทโมะแล้ว ได้รีบหนีไปขอความช่วยเหลือจากโนบุนากะ โนบุนากะจึงให้โอดะ โนบุมิซึ เจ้าปราสาทโมริยามะผู้เป็นอาเข้าแก้แค้นให้กับโยชิคาเนะ โนบุมิซึสามารถจับตัวโนบุโทโมะได้ แล้วจึงประหารโนบุโทโมะในข้อหาผู้ทรยศต่อตระกูล อันเป็นการกำจัดเชื้อสายตระกูลโอดะฝั่งปราสาทคิโยสึไปด้วย จากนั้นโนบุนากะจึงได้ย้ายฐานบัญชาการทหารไปที่ปราสาทคิโยสึ แล้วให้
ปัญหาศึกสงครามของโอดะ โนบุนากะ ใช่จะมีเพียงแต่ศึกสงครามภายนอกเท่านั้น เพราะหลังจากเสร็จศึกทลายป้อมมารุคิได้ไม่นาน ศึกภายในตระกูลโอดะก็ได้อุบัติขึ้น คราวนี้น้องชายของโนบุนากะชื่อโนบุยุกิ ได้ถูกโนบุโทโมะ เจ้าครองปราสาทคิโยสึ ญาติห่างๆ ยุยงให้แย่งชิงตำแหน่งเจ้าแคว้น โดยวางแผนให้ชิบะ โยชิมุเนะ ที่อยู่ในตำแหน่งขุนพิทักษ์นคร ป็นตำแหน่งที่แต่งตั้งโดยโชกุนไม่ขึ้นตรงกับเจ้าแคว้น ลอบสังหารโนบุนากะ แต่โยชิมุเนะกลับนำแผนสังหารไปแจ้งต่อโนบุนากะ ซึ่งการเผยแผนลับได้ล่วงรู้ถึงหูของโนบุโทโมะ โนบุโทโมะที่โกรธแค้นจึงได้สั่งให้นายกองอาศัยจังหวะที่ ชิบะ โยชิคาเนะ บุตรชายของโยชิมุเนะนำกำลังทหารออกไปราชการนอกปราสาทบุกสังหารโยชิมุเนะเสีย แล้วเมื่อโยชิคาเนะได้ข่าวการบุกสังหารบิดาโดยโนบุโทโมะแล้ว ได้รีบหนีไปขอความช่วยเหลือจากโนบุนากะ โนบุนากะจึงให้โอดะ โนบุมิซึ เจ้าปราสาทโมริยามะผู้เป็นอาเข้าแก้แค้นให้กับโยชิคาเนะ โนบุมิซึสามารถจับตัวโนบุโทโมะได้ แล้วจึงประหารโนบุโทโมะในข้อหาผู้ทรยศต่อตระกูล อันเป็นการกำจัดเชื้อสายตระกูลโอดะฝั่งปราสาทคิโยสึไปด้วย จากนั้นโนบุนากะจึงได้ย้ายฐานบัญชาการทหารไปที่ปราสาทคิโยสึ แล้วให้ยกเลิกตำแหน่งขุนพิทักษ์นครทิ้งเสีย
แต่แล้วในปี โคจิ ที่ 2 (ตรงกับปี ค.ศ. 1556) โนบุยุกิน้องชายผู้ได้รับการปลูกฝังให้เกลียดชังโนบุนากะ ได้ร่วมมือกับเหล่าขุนนางในตระกูลที่ไม่ลงรอยกับโนบุนากะก่อการต่อต้านอำนาจของโนบุนากะ และบางครั้งก็ได้ยักยอกเงินส่งคลังของแคว้นไปเพื่อการซ่องสุมกองกำลังที่ภักดีต่อตัวเองด้วย แล้วเมื่อโนบุนากะรับรู้ถึงพฤติกรรมเหล่านี้แล้ว ความอดทนก็ถึงจุดสิ้นสุด โนบุนากะสั่งกรีธาทัพออกจากคิโยสึ ด้านฝั่งตะวันออกปะทะกับกองกำลังของชิบะตะ คัตสึอิเอะ ส่วนด้านทิศใต้ปะทะกับกองกำลังของพี่น้องฮายาชิ
ราวๆ เที่ยงวันนั้น โนบุนากะกับกองทหารครึ่งหนึ่งบุกติดพันกับศึกทางฝั่งชิบาตะอยู่ แล้วด้วยจำนวนทหารที่ต่างกันมากมาย ทำให้ทหารหน่วยนี้ต้องฟาดฟันขับเคี่ยวกับข้าศึกที่หนุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ที่นี่โนบุนากะต้องเสียซัสสะ มาโงะซึเกะ นายทหารฝีมือดีไป แล้วกองทหารของชิบะตะก็เข้าถึงหน่วยทัพของโนบุนากะ ตามบันทึกของบาทหลวงหลุยส์ ฟรอยส์ (Luis Frois) กล่าวไว้ว่า ในตอนที่หน่วยของโนบุนากะถูกรุกเข้าถึงนั้น กำลังทหารคุ้มกันของโนบุนากะมีเพียง 40 คนเท่านั้น นับเป็นศึกที่โนบุนากะเสี่ยงชีวิตมากที่สุดศึกหนึ่ง แต่ด้วยความเชี่ยวชาญศึกของพลคุ้มกัน 2 คน คือ โอดะ โนบุฟุสะ กับ โมริ โยชินาริ ที่ยืนประจันหน้ากับข้าศึกปกป้องเจ้านายอย่างเต็มที่ ทำให้ไม่มีอาวุธใดเข้ากร้ำกรายถึงโนบุนากะได้เลย แล้วโนบุนากะก็ร้องตวาดออกมาด้วยเสียงอันกึกก้องต่อพวกข้าศึกที่ล้วนแต่เป็นเครือญาติบริวารทั้งสิ้น ทำให้พวกทหารที่บุกเข้ามาพวกนั้นถึงกับขวัญเสียหนีตายไปคนละทิศคนละทาง แล้วขวัญกำลังใจของทหารโนบุนากะก็พลิกฟื้นกับมาฮึกหาญอีกครั้ง แล้วโนบุนากะตีทัพของชิบะตะแตกกระเจิงไป แล้วจากนั้นก็มุ่งเข้าบุกไปทางศึกที่ตะลุมบอนกันอยู่ทางฝั่งพี่น้องฮายาชิ โนบุนากะควบม้าฟ่าสมรภูมิเข้าไปในตอนที่ฮายาชิ มิจิโตโมะ เพิ่งจะสังหารคุโรดะ ฮัมเป สิ้นชีพลง โนบุนากะเข้าบุกประชิดมิจิโตโมะได้แล้วแทงหอกเสียบทะลุร่างของมิจิโตโมะแล้วชูเหวี่ยงขึ้นฟ้าอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นหัวหมู่นายกองของโนบุยุกิก็ถูกสังหารลงอย่างมากมาย ท้ายสุดโนบุยุกิถูกจับได้ที่กลางสมรภูมิ
สิ้นศึกโดตะ โกเซนมารดาของโนบุนากะได้ร้องขอกับโนบุนากะ ให้นึกถึงความเป็นพี่น้องละเว้นโทษตายไว้ชีวิตให้โนบุยุกิ โนบุนากะถึงกับจัดพิธีอภัยโทษให้กับน้องชายและนายพลพ่ายศึกทั้งหลายขึ้นที่ปราสาทคิโยสึ แล้วให้แสดงความภักดีโดยการสาบานตน แต่ที่สุดในปีต่อมาโนบุยุกิก็คิดวางแผนก่อการขึ้นอีก แต่คราวนี้โนบุนากะรู้แผนการณ์แล้วตั้งแต่ต้น จึงได้ซ้อนแผนลวงว่าตัวเองกำลังป่วยหนัก สั่งให้โนบุยุกิเข้าเยี่ยมที่ปราสาทคิโยสึ แล้วระหว่างที่รอก่อนเข้าเยี่ยมนั้นก็ให้มือสังหารชุดดำเข้าปฏิบัติการปลิดชีพของโนบุยุกิลง
แต่กระนั้นศึกภายในตระกูลก็ยังไม่จบดี ในปีแรกของศักราชเอรกกุ (ตรงกับปี ค.ศ. 1558) โอดะ โนบุกาตะ เจ้าปราสาทอิวาคุระ ญาติห่างๆ จากอีกสายหนึ่ง ได้เกิดการกำเริบแข็งเมืองมีใจสวามิภักดิ์กับเมืองอื่น คราวนี้โนบุนากะยกทัพกำลังพล 2,000 นาย เข้าบุกตะลุมบอนกับทัพของโนบุกาตะที่มีกำลังพล 3,000 นายอยู่ก่อน แล้วให้โอดะ โนบุคิโยะ นำทัพหนุนจากปราสาทอินุยามา มาอีก 1,000 นาย จนเมื่อทัพของโนบุคิโยมาถึงพร้อมแล้ว ก็ให้แปรกระบวนทัพเป็นการล้อมตี ไพร่พลของโนบุกาตะล้มตายลงไปเป็นจำนวนมาก จนในที่สุดก็แตกพ่ายไปในที่สุด โนบุนากะสั่งปิดล้อมปราสาทอิวาคุระต่อไปอีกหลายเดือน จนกระทั่งมีข่าวว่าโนบุกาตะได้ปลิดชีพตัวเองด้วยการคว้านท้องแล้วผู้คนในปราสาทต่างออกมาขอยอมจำนน ซึ่งเท่ากับว่าตอนนี้โนบุนากะได้รวมอำนาจภายในแคว้นโอวาริทั้งหมดไว้ที่ตนแต่เพียงผู้เดียวแล้ว
ในปีเอรกกุที่ 2 โนบุนากะพร้อมกับคนสนิทประมาณ 100 คนได้เข้าเมืองหลวงเพื่อร่วมประชุมขุนพิทักษ์นครที่ตำหนักโชกุนอาชิคางะ โยชิเทรุ ถึงแม้จะเป็นการเข้าเมืองหลวงครั้งแรกของโนบุนากะ แต่เสียงลือเสียงเล่าอ้างต่างก็พูดถึงความสง่างามของขุนพลจากแคว้นโอวาริผู้นี้


