ขอให้เราดูแลวิญญาณคุณ... ปล. ด้วยรักนิรันดร์... episode 3
หากมีสถานที่ใดสักแห่ง ที่เราจะสามารถไปพบกับบุคคลอันเป็นที่รักผู้จากโลกนี้ไปแล้วเมื่อใดก็ตามที่เราคิดถึงเขาก็คงจะดีไม่น้อย
โดย...เพียงออ วิไลย
หากมีสถานที่ใดสักแห่ง ที่เราจะสามารถไปพบกับบุคคลอันเป็นที่รักผู้จากโลกนี้ไปแล้วเมื่อใดก็ตามที่เราคิดถึงเขาก็คงจะดีไม่น้อย ทว่า สถานที่เปิดโลกทั้งสามให้ทุกคนมาพบกันได้นั้น หามีไม่ ... ในเมื่อบุคคลที่ตายจากภพนี้ไปแล้ว จะยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิดไปสู่ภพภูมิต่างๆ ตามกระแสกรรมเหนี่ยวนำจิตสุดท้าย การที่จะไปติดตามหาว่าญาติพี่น้อง คนนั้นคนนี้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว สำหรับคนธรรมดาคงจะไม่สามารถทำได้ ... คงเพียงแค่ระลึกถึงเขาในอดีตที่ผ่านพ้นไปเท่านั้น
สวนสุสาน “ชองอา” มินิคอนโดเพื่อรักษาอัฐิและวิญญาณของคนที่คุณรัก เป็นธุรกิจเอกชนได้นำความจริงในข้อนี้มาเป็นจุดขาย พร้อมกับสโลแกนที่จูงใจ ว่า “ณ สวนสุสานชองอา ที่สดใสงดงามแห่งนี้ ท่านจะได้อยู่กับคนที่ท่านรักตลอดชั่วนิรันดร์ ...โอ้...สำหรับผู้ที่เพิ่งจะสูญเสีย ฟังแล้วก็อดที่จะคล้อยตามมิได้เพราะคำว่า “รักชั่วนิรันดร์” นั้น ย่อมน่าปรารถนามากกว่าคำว่า “รักชั่วคราว” แม้ว่า “ความรักที่เป็นนิรันดร์” นั้นก็เป็นสิ่งสมมติขึ้นมาทั้งสิ้น...
อย่างไรก็ดี เมื่อเดินสำรวจดูมินิคอนโดแต่ละห้อง(ช่อง) ก็พบความรักอันมากมาย วาด-เขียน-บรรจงแสดงไว้ในห้อง ห้องดับเบิลก็มีอัฐิของสามีภรรยา หรือพ่อแม่ลูกมาอยู่รวมกัน มีอยู่ห้องหนึ่งสามีเสียชีวิตไปก่อนภรรยา 40 ปี สุดท้ายรูปถ่ายต่างกาลเวลาของท่านพร้อมโกศสองใบก็ถูกนำมาตั้งเคียงกันจนได้ ดูแล้วลูกหลานคงจะชื่นใจเหลือเกิน.. สุสานชองอา สามารถหยิบยกประเด็นที่เป็นทั้งโอกาสและข้อจำกัดทางวัฒนธรรม ร่วมกับการแก้ “เงื่อนไข” และ “สร้างค่านิยมใหม่” จึงทำให้ขายพื้นที่ได้ดีเลยค่ะ
โอกาสจากข้อจำกัดของวัฒนธรรม ตั้งแต่โบราณมาเกาหลี นิยมฝังร่างบรรพบุรุษ เมื่อถึงเทศกาลลูกหลานก็จะได้มาทำความสะอาด “มู-ดอม หรือ มโย-จิ ” (ฮวงซุ้ย) และทำพิธีกราบไหว้แสดงความกตัญญูต่อท่านตามคำสอนของขงจื้อ ทว่า ปัจจุบันที่ดินมีราคาสูงมาก การบำรุงรักษาก็แพง ดังนั้น การฝังศพจึงเป็นภาระอันหนักอึ้งของคนที่ยังอยู่ ...หากจะเก็บศพต่อไปโดยไม่ฝังก็จำเป็นต้องมีที่เก็บศพที่ดีและปลอดภัย ซึ่งค่าใช้จ่ายอาจแพงขึ้นไปอีกหลายเท่า ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุด คือ การแหกคอกวัฒนธรรมสามพันปี โดย “การเผาศพ” ...ปัจจุบัน คนเกาหลีเริ่มนิยมการเผาศพมากขึ้น เพราะประหยัดและรวดเร็ว และด้วยเหตุที่เกาหลี ไม่เก็บอัฐิไว้ในบ้าน จึงจำเป็นต้องมีสถานที่ที่ปลอดภัย จัดเก็บให้ สรุปว่า ทุกเงื่อนไขมาลงตัวที่ สถานบริการสุสานคอนโด....ซึ่งใช้ความหรูหรา สวยงาม สะดวกสบาย ไร้กังวล เป็นจุดขายสำคัญ
ดูจากจำนวนวิญญาณ (อัฐิ) ซึ่งได้จ่ายค่าซื้อมินิคอนโดช่องเดี่ยวขนาด 1 ลูกบาศก์ฟุต ต่อ 1 วิญญาณ ราคา 5 ล้านวอน (ราว 135,000 บาท) เพื่อให้ “Soul Keeper หรือผู้ดูแลรักษาวิญญาณ” ดูแล ปัจจุบันมีลูกค้าต่างภพ 28,000 วิญญาณ ได้เงินไป 140,000 ล้านวอน (ราว 3,780 ล้านบาท...โอ้วววว) ... และยังมีพื้นที่ มินิคอนโดว่างรองรับได้อีก 27,000 ช่อง จะเป็นเงินเข้าสุสานอีก 135,000 ล้านวอน (ราว 3,648 ล้านบาท...โอ้วววว ครั้งที่ 2) ดังนั้น เมื่อเต็ม 2 อาคาร สุสานแห่งนี้จะมีรายได้ถึง 275,000 ล้านวอน (ราว 7,428 ล้านบาท...จ๊ากก ครั้งที่ 3) .....เม็ดเงินที่เกิดจากความรักและอาลัย มีเยอะแยะมากมายจริงๆ ค่ะ นี่ยังไม่รวมถึงค่าดูแลรักษาวิญญาณรายปีนะคะ ปีละ 6 แสนวอน (ราว 16,200 บาท) เต็มโครงการจะมีเงินหมุนเวียนเข้าอีก ปีละ 891 ล้านบาท หักจากค่าใช้จ่ายรายเดือน ได้แก่ ค่าน้ำไฟภาษี เงินเดือนพนักงาน 100 คน และ ค่าบริหารจัดการอื่นๆ แล้ว ... สุดจะเหลือเฟือค่ะ...
พื้นที่ของมินิคอนโดซื้อขายขาดค่ะ ผู้ซื้อมีสิทธิครอบครองช่องชั้นตามหมายเลข หากซื้อแล้วต่อมาไม่ได้ใช้หรือย้ายที่เก็บอัฐิ ก็สามารถเซ้งมินิคอนโดนี้ได้ด้วย ช่างเหมือนการถือครองที่ดินสุสาน แต่ราคาถูกกว่ามากเป็นสิบเท่า พื้นที่ที่จำกัดแต่คนมากขึ้นจึงเป็นธุรกิจที่ยังรุ่งต่อไปและอยู่ได้ยืนนานในสภาพสังคมเกาหลีค่ะ
หมายเหตุ หนังสือ “เกาหลีทีเด็ด” ฉบับรวมเล่ม 1 และ “เตรียมตัวไปเป็นเฟรชชี่ที่เกาหลี” จำหน่ายแล้วที่ร้านนายอินทร์ และ ซีเอ็ด ทุกสาขา...


