posttoday

อาคิโอะ โทโยดะภารกิจนี้เพื่อชาติและเพื่อตระกูล

21 กุมภาพันธ์ 2553

...ทีมข่าวต่างประเทศ

 

บุคคลที่เป็นที่จับจ้องจากทั่วโลกในเสี้ยววินาทีเห็นทีจะหนีไม่พ้น อาคิโอะ โทโยดะ ประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ หัวหอกคนสำคัญที่จะต้องนำโตโยต้าออกจากวิกฤตให้ได้

ภารกิจนี้นอกเหนือจากที่จะต้องกู้ชื่อของ สินค้าญี่ปุ่นแล้ว ยังมีเกียรติยศและศักดิ์ศรีของตระกูลเป็นเดิมพัน ในฐานะที่เขาเป็นถึงทายาทรุ่นหลานของผู้ก่อตั้งโตโยต้า

โทโยดะได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นประธานบริษัทในช่วงที่โตโยต้าเจอกับวิกฤตขาดทุนครั้งใหญ่อันเป็นผลจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2009 เขาก้าวขึ้นมาพร้อมกับคำมั่นสัญญามากมายที่จะต้องกู้บริษัทให้ฟื้นตัวขึ้นมาให้ได้ หลังจากที่ตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกตกต่ำถึงขีดสุดเมื่อปีที่แล้ว

แต่ไม่น่าเชื่อเพียงครึ่งปีหลังจากการเข้ารับตำแหน่ง โทโยดะเจอกับวิกฤตที่หนักกว่าและหนักที่สุดในรอบ 70 ปี ของบริษัท เมื่อรถยนต์ของโตโยต้าถูกร้องเรียนถึงปัญหาด้านความปลอดภัย ทั้งเรื่องปัญหาคันเร่งค้างและเบรกเอาไม่อยู่ จนทำให้บริษัทต้องเรียกคืนรถยนต์หลายรุ่นทั่วโลกมากถึง 8.5 ล้านคัน สร้างความเสียหายให้กับสินค้ายี่ห้อเมดอินเจแปน และชื่อของโตโยต้าเอง

เสียงวิพากษ์วิจารณ์กำลังกระหน่ำกันเข้ามาว่า โทโยดะมีกึ๋นพอที่จะรับมือกับปัญหาเหล่านี้หรือไม่

โทโยดะ ในวัย 53 ปี เพิ่งจะกล้าอ้าปากประกาศลั่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เขาพร้อมเต็มที่กับการเดินทางไปเข้าร่วมการอภิปรายสอบสวนของสภาคองเกรสสหรัฐในสัปดาห์หน้าต่อปัญหาการเรียกคืนรถยนต์ของบริษัท

โทโยดะลั่นว่าพร้อมเต็มที่ที่จะเผชิญ หน้ากับสส.มะกันในสภา และเผชิญหน้ากับ อเมริกันชน

แต่การประกาศของเขานั้นกลับทำให้ถูกวิจารณ์หนักมากขึ้นไปอีก ว่าเป็นคนลังเล ไม่แน่วแน่ เพราะเมื่อ 2 วันก่อนหน้า เขาเพิ่งจะยืนยันว่าจะไม่ไปร่วมการอภิปรายสอบสวนในครั้งนี้..!

ผมหวังว่าคำมั่นของโตโยต้าที่ให้ไว้กับลูกค้าและประเทศสหรัฐอเมริกา จะได้รับความเข้าใจอย่างถ่องแท้โทโยดะ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในกรุงโตเกียว พร้อมกับยืนยันว่าเจ้าตัวมีความตั้งใจด้วยความบริสุทธิ์ใจที่จะอธิบายให้ชาวอเมริกันได้ฟังถึงมาตรการล่าสุดของบริษัทที่จะเพิ่มระดับการควบคุมมาตรฐานด้านความปลอดภัยของสินค้า

ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการจัดตั้งคณะกรรมการด้านความปลอดภัยชุดพิเศษขึ้น และโทโยดะก็นั่งเป็นประธานด้วยตัวเอง

แต่ใช่ว่าการร่วมฟังการอภิปรายของเขานั้นจะเพียงพอสำหรับการแก้ปัญหา ยังเกิดความวิตกกังวลว่า เขาจะเอาตัวรอดจากการซักถามอันดุเดือดจากบรรดาเหยี่ยวสส.สหรัฐไปได้มากแค่ไหน

ก่อนหน้านี้ โทโยดะ ได้ส่งชื่อ โยชิ อินาบะ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของโตโยต้าในสหรัฐ ให้เป็นหน้าเสื่อเข้าร่วมการอภิปรายแทนตัวเอง กลายเป็นการเปิดช่องว่างให้ถูกโจมตีถึงความรับผิกชอบในฐานะของประธานบริษัท ทั้งๆ ที่เกมการอภิปรายยังไม่ได้เริ่ม

ณ ที่แห่งนี้ (สภาคองเกรส) เป็นที่ที่คุณต้องส่งคนระดับสูงมาก หากคุณมีผู้ที่ไม่สามารถจัดการปัญหาระดับโลกที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ เขาก็ไม่เหมาะสมที่จะนั่งเป็นหัวเรือพอล อาร์เจนติด ศาสตราจารย์ด้านการสื่อสารคอร์ปอเรตแห่งวิทยาลัยธุรกิจธัค กล่าว

ตลอดเวลาที่ผ่านมาโทโยดะแสดงออกมาตลอดถึงความเป็นนักแข่งและผู้ที่หลงใหลรถสปอร์ต ปรากฏกายในชุดนักแข่งหลายครั้งในหลายสนามแข่ง ยังเป็นบล็อกเกอร์ตัวยงเพื่อสร้างแบรนด์ของโตโยต้าในโลกออนไลน์ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นนักสำหรับในญี่ปุ่น

หลายคนไม่วายกังขาว่า โทโยดะกล้าทำเช่นนั้นได้เพราะเป็นถึงหลานของ คิอิจิโร โทโยดะ ผู้ก่อตั้งโตโยต้าเท่านั้นเอง

โทโยดะ เคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของโตโยต้าในประเทศจีน และยังเป็นผู้อำนวยการฝ่ายลงทุนร่วมกับเจนเนอรัล มอเตอร์ส ในโรงงานผลิตนิวยูไนเต็ด มอเตอร์ ในเมืองไฟรมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ก็พบจุดจบไปเมื่อปีที่แล้ว

ที่ผ่านมาโทโยดะมักจะพยายามถ่อมตนกับตำแหน่งของเขาในบริษัท และพยายามปัดข่าวถึงอิทธิพลของเขาในฐานะประธานบริษัทด้วย ถือเป็นการไม่อวดเบ่งอันเป็นมารยาทและวัฒนธรรมที่จำเป็นยิ่งสำหรับวัฒนธรรมองค์กรของญี่ปุ่น

แต่สำหรับวิกฤตครั้งล่าสุดนี้เขาจะถ่อมตนไม่ได้ และไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับโทโยดะเหมือนที่ผ่านมา เขาจำเป็นที่จะต้องรับมือด้วยวิธีที่ต่างออกไป เมื่อเจอคู่ต่อกรคือความคาดหวังสูงและยังหนักหน่วงรุนแรงอย่างคนสหรัฐ และ รัฐบาลอเมริกัน

อัลไรค์ ชีด ศาสตราจารย์ด้านธุรกิจญี่ปุ่นแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในซานดิเอโกให้ความเห็นว่า โตโยต้ายังขาดกลไกต่อการแก้ปัญหาและจัดการอีกมาก ถ้าเทียบกับการเติบโตขึ้นสู่การเป็นบริษัทระดับโลกที่รวดเร็วเกินไปของบริษัท

ที่สำคัญที่สุดคือ การควบคุมคุณภาพสินค้าของโตโยต้านั้น เติบโตไม่ทันกับการขยายตัว

อเมริกาเป็นประเทศที่ประหลาด พวกเขาจะใช้อีกมาตรฐานหนึ่งจัดการกับบริษัทขนาดใหญ่ เป็นเรื่องที่ไม่มีใครต้องการหรอก แต่เขา (โทโยดะ) จะต้องรับมือกับมัน เขาถูกเลือกแล้ว

ที่ผ่านมาบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่ง อย่างเช่น โซนี่ คอร์ป และนิสสัน มอเตอร์ส ได้ผ่านการปฏิรูปในรูปแบบตะวันตกมากขึ้น แต่สำหรับโตโยต้านั้นกลับเป็นเรื่องตรงกันข้าม ในคณะกรรมการบริษัทไม่มีชาวต่าง ชาติอยู่เลยสักคนเดียว

เอพีรายงานว่า มองลึกเข้าไปในวัฒนธรรม บริษัทญี่ปุ่น ผู้ที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำได้นั้นจะถูกคัดเลือกจากทักษะการทำงาน ความแน่วแน่ในการตัดสินใจ ต้องเป็นผู้ที่สามารถรักษาความเป็นหนึ่งและความมั่นคงของบริษัทได้ และส่วนใหญ่จะมีอายุมากแล้ว มากถึง 60 ปี หรือยิ่งกว่านั้น และเคยผ่านงานในหลายแผนกของบริษัทมาแล้ว

ดังนั้น โทโยดะจะต้องยิ่งทำงานมากขึ้นกว่าคนอื่น เพราะเขาถูกเลือกขึ้นมาทั้งที่อายุยังไม่ถึง 60 ปี กับตำแหน่งประธานบริษัทอันยิ่งใหญ่นี้

แต่เขาก็ถูกเลือกขึ้นมาในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์ของครอบครัว และเป็นตัวเชื่อมแห่งประวัติศาสตร์ของโตโยต้า

และเชื่อหรือไม่ว่าตัวของโทโยดะถือหุ้นน้อยกว่า 1% ในบริษัท แต่เขากลับเป็นที่รับรู้ในฐานะผู้ที่เป็นเสาหลักแห่งภาพลักษณ์ของบริษัท

ในช่วงแรกโทโยดะอาจจะถือว่าเก็บตัวเงียบมากเกินไป หลังจากที่เริ่มเกิดการเรียกคืนรถยนต์ในสหรัฐในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังโทโยดะเริ่มที่จะออกมาเผชิญหน้ากับปัญหามากขึ้น เขาปรากฏตัวในการแถลงข่าวแล้ว 3 ครั้ง เขาตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่างชาติด้วยภาษาอังกฤษ แม้ว่าจะขลุกขลักบ้างในครั้งแรก ก่อนที่ในสองครั้งถัดมาจะเตรียมตัวมาดีขึ้น กับการเตรียมแถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษ

บางทีเขาอาจจะเดินบนเส้นด้ายนี้ที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ทั้งในญี่ปุ่นและสหรัฐต่อไปก็เป็นได้

ผมอยากจะบอกว่า ให้เวลาเขาสักนิด...โรแลนด์ เคลต์ ผู้เขียนหนังสือชื่อดัง เรื่อง วัฒนธรรมป๊อปญี่ปุ่นบุกสหรัฐ ให้ความเห็นทิ้งท้าย

ข่าวล่าสุด

กองทัพไทย ยืนยันทุกเหล่าทัพ ทุกเป้าหมายที่โจมตีล้วนเป็นเป้าหมายทางทหาร