2 ขวบร่อแร่ข้างถนนเหยื่อสังคมจีนยุคใหม่
เด็กหญิงชาวจีนวัย 2 ขวบ ในชุดกระโปรงสุดน่ารักกำลังเดินเตาะแตะตามหาแม่
โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ
เด็กหญิงชาวจีนวัย 2 ขวบ ในชุดกระโปรงสุดน่ารักกำลังเดินเตาะแตะตามหาแม่ของตนอยู่ด้านข้างถนนในตลาดสดอันวุ่นวายแห่งหนึ่ง โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า ในขณะนั้นรถบรรทุกขนาดใหญ่กำลังวิ่งแล่นตรงเข้ามา และพุ่งเข้าชนหนูน้อยอย่างจัง จนหนูน้อยกลิ้งล้มลงไปนอนอยู่บนพื้นถนน ก่อนที่รถบรรทุกคันมรณะเร่งเครื่องจากไปเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
ทว่า ในขณะที่หนูน้อยผู้น่าสงสารกำลังนอนดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดอยู่นั้น สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีรถบรรทุกของอีกหนึ่งคันวิ่งแล่นตรงเข้ามาทับร่างของหนูน้อยซ้ำ ก่อนที่จะขับจากไปเหมือนดังรถบรรทุกคันแรกอย่างหน้าตาเฉย
ในเสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตาย ที่หนูน้อยนอนกระอักเลือดอย่างโดดเดี่ยวรอความช่วยเหลืออยู่นั้น ในที่สุดก็มีชายหนุ่มรายหนึ่งเดินผ่านเข้ามา ก่อนที่จะสังเกตเห็นว่ามีร่างของเด็กผู้หญิงอันบอบบางชุ่มโชกไปด้วยเลือดนอนรอความตายอยู่บนพื้น
แต่ทว่า ปฏิกิริยาของชายหนุ่มดังกล่าวกลับไม่ใช่ความตื่นตระหนกตกใจและหวาดผวา แต่เป็นเพียงความนิ่งเฉยและสายตาสุดเย็นชา ก่อนที่จะเดินจากไปโดยไม่สะทกสะท้านต่อภาพอันน่าสะพรึงกลัวตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ในตลาดนัดที่มีผู้คนกำลังเดินจับจ่ายใช้สอยกันอย่างพลุกพล่าน มีคนเดินผ่านและก้มมองร่างของหนูน้อยที่ลมหายใจกำลังแผ่วเบาลงเรื่อยๆ อยู่ข้างถนนถึง 18 คน แต่ทว่า ไม่มีใครหยิบยื่นความช่วยเหลือเด็กน้อยผู้เคราะห์ร้ายเลยแม้แต่คนเดียว
ตลอด 7 นาที ที่หนูน้อยนอนรอความตายอย่างทุกข์ทรมาน ในที่สุดก็มีคุณป้าคนหนึ่ง ซึ่งมีอาชีพเก็บขยะมาเห็น จึงรีบดึงร่างของเด็กน้อยอย่างเบามือจากกลางถนนและตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือในทันที
นี่คือภาพเหตุการณ์สุดสลดใจที่เกิดขึ้นจริงในเมืองฟอซาน มณฑลกวางตุ้งของจีนเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกนาทีชีวิตของ เสียว เยว เยว เด็กหญิงชาวจีนวัย 2 ขวบ ไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
หนูน้อยเยว เยว...เหยื่อโศกนาฏกรรมสุดเย็นชา
ถึงแม้ว่าเว็บไซต์สำนักข่าวไชนา เดลี สื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลจีนรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนขับรถบรรทุกมรณะทั้ง 2 คน ซึ่งให้การว่ามองไม่เห็นว่า เยว เยว เดินอยู่เนื่องจากถนนดังกล่าวค่อนข้างมืด แถมไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าได้ขับรถชนและทับร่างอันบอบบางของเด็กน้อยไปเรียบร้อยแล้ว
แต่ทว่า สิ่งที่พ่อของหนูน้อยเยว เยว เล่ากลับเป็นหนังคนละม้วนเลยทีเดียว
เพราะภายหลังจากที่คนขับรถบรรทุกคันแรกรู้ตัวว่า ได้ขับรถชนก็ได้รีบโทร. ติดต่อมายังพ่อของเยว เยว เพื่อเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันที
“พอผมรู้ว่าผมขับรถชนน้องก็คิดเหมือนกันว่าจะลงไปดู แต่เมื่อเห็นว่าน้องเขาเลือดไหลมากแล้ว จึงตัดสินใจรีบขับออกไปเพราะกลัวว่าจะมีคนมาเห็นเหตุการณ์”
แถมยังบอกอีกว่า ตนไม่เห็นว่าเด็กเดินอยู่ริมถนนเนื่องจากกำลังติดสายคุยโทรศัพท์และกำลังเครียดอยู่เพราะเพิ่งเลิกกับแฟนสาว
พ่อของ เยว เยว ให้สัมภาษณ์กับเซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ก่อนที่ลูกสาวจะเสียชีวิต ด้วยน้ำเสียงเศร้าสลดว่า เยว เยว พลัดหลงกับแม่ของเธอ ซึ่งกำลังวิ่งตามหาอย่างจ้าละหวั่น
“ผมรู้สึกสิ้นหวังและเจ็บปวดเมื่อพบว่า ผู้คนที่เดินผ่านไปมาไม่คิดแม้แต่จะพยายามช่วยเด็กเล็กๆ ที่ใกล้ตายคนนี้เลย”
“ผมคิดว่าพวกเขาคงอยากให้ลูกผมตายไปเลย เพราะจะได้ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล” พ่อของเยว เยว กล่าว
อีกด้านแดนมังกร...ดินแดนแห่งตัวใครตัวมัน?
ภายหลังจากที่เรื่องราวสุดสลดใจของหนูน้อยเยว เยว ออกสู่สายตาสาธารณชนเพียงไม่นาน ก็กลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ที่ไม่เพียงแต่ชาวจีน แต่คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจพูดถึง เผยแพร่ส่งต่อวิดีโอดังกล่าวกันบนโลกอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังกันอย่างกว้างขวาง
นอกจากจะสร้างความสะเทือนใจและโกรธเกรี้ยวกับภาพความเย็นชาที่คนถึง 18 คน หยิบยื่นให้กับหนูน้อยวัยน่ารักที่กำลังนอนรอความตายอยู่นั้น สิ่งที่ตามมาคือคำถามมากมายว่า
“มองไม่เห็นเด็กหรืออย่างไร”
“เดินผ่านไปอย่างหน้าตาเฉยได้อย่างไร”
“ทำไมถึงไม่ช่วยเด็ก”
เล่นเอาชาวไซเบอร์และผู้เชี่ยวชาญหลากหลายวงการออกมาวิพากษ์วิจารณ์และวิเคราะห์กันว่า “เกิดอะไรขึ้นกับสังคมจีนกันแน่”
บ้างก็บอกว่าอาจจะเป็น “กลัวความผิด” เนื่องจากเคยมีกรณีตัวอย่างเมื่อปี 2549 ที่ปาง หยู หนุ่มชาวจีนคนหนึ่งบังเอิญไปเจอคุณยายคนหนึ่ง ซึ่งเดินหกล้มขาเจ็บนั่งอยู่ริมถนน ด้วยความหวังดีจึงรีบอุ้มคุณยายไปส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน
แต่ทว่าเรื่องราวกลับตาลปัตร เมื่อคุณยายดันใส่ร้ายหนุ่มคนนั้นว่า เป็นคนที่ผลักคุณยายให้ล้มลงจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับเรียกร้องให้หนุ่มผู้หวังดีจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลอีกด้วย
เรื่องนี้เลยเถิดถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลยทีเดียว
เมื่อหนุ่มคนนี้ได้ยินคำตัดสินของศาลก็แทบลมจับใส่และแทบอยากจะกลายเป็นคนเลวในทันที เพราะศาลได้ตัดสินว่า เป็นสามัญสำนึกว่าผู้ที่นำคุณยายคนดังกล่าวไปส่งโรงพยาบาลเป็นคนแรก จะต้องเป็นคนเดียวกับคนที่ทำให้คุณยายได้รับบาดเจ็บนั่นเอง
พร้อมกับพิพากษาให้หนุ่มคนนี้ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลของคุณยายถึง 40% ของค่ารักษาทั้งหมดอีกด้วย
นอกจากนี้ ชาวไซเบอร์หลายคนยังโพสต์คอมเมนต์ลงในหน้าเฟซบุ๊ก สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังของตนอีกว่า “หากคนที่ลงไปช่วยผู้ที่บาดเจ็บเป็นคนที่มีฐานะละก็ รับรองได้ว่าต้องถูกบังคับให้จ่ายเงินค่าเสียหายเพื่อชดใช้กรรมที่เราไม่ได้ก่อจนหมดตัวเลยทีเดียว”
นั่นเป็นสาเหตุว่า ทำไมคุณป้าคนเก็บขยะถึงกล้าช่วยเหลือหนูน้อยเยว เยว
“ก็เพราะเธอไม่มีอะไรจะเสียนั่นเอง”
ว่ากันว่า คดีดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งปัจจัยทำให้ชาวจีนสมัยนี้ มักจะลังเลทุกครั้งที่จะมอบความช่วยเหลือแก่คนบาดเจ็บที่พบเจอตามท้องถนน
นอกจากนี้ มีข้อมูลชี้อีกว่ารัฐบาลจีนยังต่อต้านการตั้งกลุ่มมูลนิธิหรือองค์กรอิสระที่อาสาให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเช่น มูลนิธิโรตารีหรือโปรแกรมทุนสนับสนุนเพื่อเพื่อนมนุษย์ใดๆ เลย
อย่างไรก็แล้วแต่ ท้ายที่สุดหนูน้อยเยว เยว ในวัยกำลังน่ารักก็ต้องสังเวยชีวิตให้กับความเย็นชาของคนบางกลุ่มในสังคม
เมื่อสื่อต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ว่า ในขณะนี้น้องเยว เยวได้เสียชีวิตลงแล้ว ภายหลังจากแพทย์วินิจฉัยว่า ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสและสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักจนสมองตาย และต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปตลอดชีวิต


