posttoday

ฝนดาวตกมังกร

02 ตุลาคม 2554

หลายคนคงรู้จักปรากฏการณ์ฝนดาวตก แต่คนจำนวนมากอาจไม่เคยได้ยินชื่อฝนดาวตกมังกร

หลายคนคงรู้จักปรากฏการณ์ฝนดาวตก แต่คนจำนวนมากอาจไม่เคยได้ยินชื่อฝนดาวตกมังกร

โดย...วรเชษฐ์ บุญปลอด

ปลายสัปดาห์นี้นักดาราศาสตร์พยากรณ์ว่าจะเกิดฝนดาวตกที่มีอัตราสูงสุดราว 110 ดวงต่อนาที คาดว่าอาจเห็นได้ดีที่สุดในแถบยุโรปและทางตอนเหนือของแอฟริกา แต่ตรงกับช่วงที่ดวงจันทร์สว่างเกือบเต็มดวง ซึ่งจะทำให้เห็นดาวตกได้น้อยลง

ฝนดาวตกเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเกิดในช่วงที่โลกโคจรผ่านเข้าไปในบริเวณที่มีสะเก็ดดาวอยู่หนาแน่น สะเก็ดดาวเหล่านี้มาจากดาวหางที่ผ่านเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ ฝนดาวตกมีหลายกลุ่ม กลุ่มที่คนไทยรู้จักมากที่สุดน่าจะเป็นฝนดาวตกสิงโตหรือลีโอนิดส์ (Leonids) ซึ่งเห็นได้เป็นจำนวนมากในประเทศไทยเมื่อเดือน พ.ย. ปี พ.ศ. 2541 และ 2544

ดาวตกที่เป็นสมาชิกของฝนดาวตกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะมีทิศทางการเคลื่อนที่ซึ่งดูเหมือนพุ่งออกมาจากจุดเดียวกันบนท้องฟ้า เราเรียกจุดนั้นว่าจุดกระจาย(ฝน)ดาวตก (Radiant) ชื่อของฝนดาวตกมักตั้งตามชื่อดาวหรือกลุ่มดาวที่จุดกระจายนี้ปรากฏอยู่

 

ฝนดาวตกมังกร

ต้นเดือน ต.ค.ของทุกปี มีฝนดาวตกกลุ่มหนึ่งชื่อฝนดาวตกมังกร (Draconid Meteor Shower) เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 610 ต.ค. ของทุกปี โดยมีอัตราสูงสุดในวันที่ 8 ต.ค. เราอาจไม่เคยได้ยินชื่อฝนดาวตกกลุ่มนี้ หรือมันไม่ค่อยได้รับการกล่าวถึงบ่อยนัก เนื่องจากโดยปกติ ฝนดาวตกมังกรมีอัตราตกเพียง 10-20 ดวงต่อชั่วโมง เป็นอัตราตกสำหรับกรณีที่จุดกระจายอยู่เหนือศีรษะและท้องฟ้ามืดสนิท การที่กลุ่มดาวมังกรเป็นกลุ่มดาวใกล้ขั้วฟ้าเหนือ เมื่อสังเกตจากบริเวณละติจูดต่ำๆ อย่างประเทศไทย กลุ่มดาวนี้จะทำมุมสูงเหนือขอบฟ้าไม่เกิน 60 องศา ทำให้จำนวนดาวตกที่เห็นได้จริงยิ่งลดลงไปอีก

ฝนดาวตกมังกรเกิดจากดาวหางจาโกบีนีซินเนอร์ หรือ 21P/GiacobiniZinner ตัวเลขข้างหน้าบ่งบอกว่าเป็นดาวหางรายคาบในลำดับที่ 21 ชื่อดาวหางมาจากนักดาราศาสตร์ 2 คน เป็นชาวฝรั่งเศสและเยอรมัน ซึ่งเป็นผู้ค้นพบดาวหางดวงนี้เมื่อ ค.ศ. 1900 และ 1913

ดาวหางจาโกบีนีซินเนอร์เข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดทุกๆ ประมาณ 6.6 ปี มันได้ทิ้งสะเก็ดดาวไว้ตามทางโคจรในทุกรอบที่ใกล้ดวงอาทิตย์ เราเรียกสายของสะเก็ดดาวจำนวนมากที่เรียงรายอยู่ตามทางโคจรใกล้เคียงกับวงโคจรของดาวหางว่าธารสะเก็ดดาว (Meteoroid Stream) นักดาราศาสตร์สร้างแบบจำลองการเคลื่อนที่ของสะเก็ดดาวภายในธาร เพื่อนำมาใช้พยากรณ์ฝนดาวตกในปีต่างๆ โดยทำการศึกษาเปรียบเทียบกับบันทึกการเกิดฝนดาวตกกลุ่มนี้ที่เคยมีจำนวนมากเป็นพิเศษในอดีต วิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถใช้พยากรณ์ฝนดาวตกสิงโตและฝนดาวตกกลุ่มอื่นๆ ได้ดี ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงได้มากที่สุดในปัจจุบัน

ค.ศ. 1933 และ 1946 โลกเคลื่อนผ่านธารสะเก็ดดาวของฝนดาวตกมังกรซึ่งมีสะเก็ดดาวอยู่หนาแน่นมาก ทำให้มีดาวตกเกิดขึ้นในอัตราสูงหลายพันดวงต่อชั่วโมง เห็นได้ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ หลังจากนั้น ฝนดาวตกมังกรก็มีจำนวนมากเป็นพิเศษใน ค.ศ. 1952 (250 ดวงต่อชั่วโมง), ค.ศ. 1985 (550 ดวงต่อชั่วโมง) และ ค.ศ. 1998 (500 ดวงต่อชั่วโมง)

สัปดาห์นี้เราอาจได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับฝนดาวตกมังกรปรากฏตามสื่อต่างๆ โดยเฉพาะจากต่างประเทศ เนื่องจากการคำนวณของนักดาราศาสตร์หลายกลุ่ม ได้ผลใกล้เคียงกันว่าปีนี้จะเป็นปีที่ฝนดาวตกมังกรมีอัตราสูงมากเป็นพิเศษในวันเสาร์ที่ 8 ต.ค. เริ่มตั้งแต่เวลา 16.0021.00 น. ตามเวลาสากล โดยคาดว่าตกถี่ที่สุดในเวลา 20.00 น. เวลานั้น ซีกโลกด้านกลางคืนที่หันเข้าหากลุ่มดาวมังกรจะเป็นบริเวณที่เห็นดาวตกได้ดีที่สุด ได้แก่ ทวีปยุโรป และตอนเหนือของแอฟริกา

ในแง่ของอัตราการเกิดดาวตกในช่วงที่ตกถี่ที่สุด นักดาราศาสตร์แต่ละกลุ่มได้ผลการพยากรณ์แตกต่างกัน โดยอยู่ในช่วง 40–600 ดวงต่อชั่วโมง และมีแสงจันทร์เป็นอุปสรรคสำคัญ คืนนั้นดวงจันทร์สว่างมาก เป็นคืนก่อนวันเพ็ญ 4 วัน แสงจันทร์จะทำให้เห็นดาวตกในจำนวนที่น้อยกว่าอัตราที่คาดไว้หลายเท่า

ฤดูฝนทำให้การสังเกตฝนดาวตกมังกรในประเทศไทยแทบไม่มีหวัง หากบังเอิญท้องฟ้าเปิด ไร้เมฆบดบัง เราจะมีโอกาสเห็นดาวตกจากฝนดาวตกกลุ่มนี้ได้ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงเที่ยงคืน ช่วงแรกจุดกระจายดาวตกซึ่งอยู่ใกล้หัวมังกรจะอยู่ทางทิศเหนือด้วยมุมเงย 45 องศา จากนั้นเคลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ จนลับขอบฟ้าไปในเวลาประมาณเที่ยงคืน

การสังเกตดาวตกไม่ต้องใช้กล้องดูดาว เพราะดาวตกเคลื่อนที่เร็ว และเราไม่รู้ว่าดาวตกจะเกิดขึ้นที่บริเวณใดของท้องฟ้า สังเกตได้โดยมองไปทั่วๆ ฟ้า หลีกเลี่ยงทิศที่ดวงจันทร์อยู่ และหาบริเวณที่ไม่มีเมฆบัง เราจะสังเกตได้ว่าดาวตกดวงไหนเป็นดาวตกจากฝนดาวตกมังกรก็ต่อเมื่อมันพุ่งมาจากทิศเหนือ เมื่อถึงช่วงใกล้เที่ยงคืน จุดกระจายดาวตกจะอยู่ต่ำมาก อาจมีโอกาสเห็นดาวตกที่เคลื่อนที่เป็นทางยาวข้ามท้องฟ้า ซึ่งเกิดจากสะเก็ดดาวที่เคลื่อนเข้ามาเฉียดบรรยากาศโลก

ช่วงเวลาที่คาดว่าดาวตกจะตกถี่ที่สุด ตรงกับเวลาตี 3 ของวันอาทิตย์ที่ 9 ต.ค. ตามเวลาประเทศไทย ทว่ากลุ่มดาวมังกรได้ตกลับขอบฟ้าไปแล้วตั้งแต่เที่ยงคืน ประเทศไทยจึงไม่มีโอกาสสังเกตดาวตกจากฝนดาวตกมังกรในช่วงที่ตกถี่ที่สุดของปีนี้ ยกเว้นผลการพยากรณ์จะคลาดเคลื่อนโดยล่าช้าไปหลายชั่วโมง ซึ่งมีโอกาสน้อยที่จะเป็นเช่นนั้น

ปรากฏการณ์ท้องฟ้า (2–9 ต.ค.)

เวลาประมาณ 2 ทุ่ม เริ่มเห็นดาวพฤหัสบดีขึ้นมาอยู่เหนือขอบฟ้าทิศตะวันออก ดาวพฤหัสบดีอยู่ในกลุ่มดาวแกะ ช่วงนี้ดาวพฤหัสบดีกำลังใกล้โลกมากขึ้น เราจึงเห็นดาวพฤหัสบดีสว่างเด่นเป็นพิเศษ มันจะเคลื่อนสูงขึ้นไปอยู่เหนือศีรษะในเวลาประมาณตี 2 จากนั้นคล้อยต่ำลงไปทางทิศตะวันตก

ขณะที่ดาวพฤหัสบดีอยู่สูงเหนือศีรษะ ดาวอังคารจะเริ่มโผล่ขึ้นมาเหนือขอบฟ้าทิศตะวันออก สังเกตได้ตั้งแต่เวลาประมาณตี 2 ครึ่ง สัปดาห์ที่แล้ว ดาวอังคารเคลื่อนผ่านกระจุกดาวรังผึ้งในกลุ่มดาวปู สัปดาห์นี้ยังคงอยู่ในกลุ่มดาวเดิม แต่จะเคลื่อนไปทางกลุ่มดาวสิงโต

สัปดาห์นี้เป็นข้างขึ้น ดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้าเวลาหัวค่ำ ต้นสัปดาห์มองเห็นเป็นเสี้ยว จากนั้นสว่างครึ่งดวงในวันอังคารที่ 4 ต.ค. ค่ำวันอาทิตย์ดวงจันทร์ตกลับขอบฟ้าเวลา 4 ทุ่มครึ่ง จากนั้นตกช้าลงวันละเกือบ 1 ชั่วโมง

 

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2