ไทยเสียแชมป์! เวียดนามแซงขึ้นแท่นเบอร์ 1 ขวัญใจนักท่องเที่ยวจีน
เปิดภูมิทัศน์ใหม่ท่องเที่ยวอาเซียน เวียดนามผงาดดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่ได้สำเร็จ ขณะที่ไทยเผชิญวิกฤตสูญรายได้กว่าแสนล้านบาท
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเวียดนามกำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ สวนทางกับยักษ์ใหญ่ในภูมิภาคอย่างประเทศไทยที่กำลังสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไป
จากข้อมูลของ China Trading Desk ซึ่งติดตามการใช้จ่ายและการเดินทางของชาวจีน ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของนักท่องเที่ยวครั้งนี้
อาจหมายถึงรายได้ที่สูญเสียไปของไทยมูลค่ากว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.11 แสนล้านบาท) ซึ่งเม็ดเงินเหล่านี้ได้ไหลไปยังเวียดนามและประเทศเพื่อนบ้านแทน
ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากนักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่ที่นิยมเดินทางด้วยตนเอง ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในความต้องการของตลาดท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก
"สำหรับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มใหม่ เวียดนามมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่และสดใหม่กว่า" สุบรามาเนีย ภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ China Trading Desk กล่าว
"นักท่องเที่ยวจำนวนมากรู้สึกว่าเวียดนามยังไม่ช้ำและมีความเป็นท้องถิ่นดั้งเดิมมากกว่า"
ในปีนี้ เวียดนามมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึงเกือบ 14 ล้านคน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดยนักท่องเที่ยวจากจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุด มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 44% เมื่อเทียบแบบปีต่อปีในช่วง 8 เดือนแรก (มกราคม-สิงหาคม)
ในขณะเดียวกัน มาเลเซียก็มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้น 35% ในช่วงครึ่งปีแรก ประกอบกับจำนวนที่นั่งของสายการบินจากจีนที่เพิ่มขึ้นเกือบ 50%
ชาฮารุดดิน ซาอิด กรรมการบริหารสมาคมเจ้าของโรงแรมมาเลเซีย กล่าวว่า นโยบายฟรีวีซ่าสำหรับชาวจีนและค่าเงินริงกิตที่อ่อนค่าลง
คาดว่าจะดึงดูดนักเดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจนถึงขณะนี้ โรงแรมต่างๆ รายงานว่ามีความต้องการเข้าพักและอัตราการเข้าพักสูงกว่าปีที่แล้ว
เวียดนามรุกตลาด ปรับกลยุทธ์รับนักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่
รัฐบาลเวียดนามและบริษัททัวร์เอกชนต่างมุ่งเน้นการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศจีน ตัวอย่างเช่น
ทางการจังหวัดกว๋างนิญซึ่งมีพรมแดนติดกับจีน ได้จับมือกับภาคธุรกิจจัดเทศกาลพาราไกลดิ้งและบอลลูนลมร้อน เพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวพักนานขึ้น
ในเมืองชายฝั่งอย่างดานัง ป้ายภาษาจีนขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ทุกหนแห่ง ตั้งแต่ทางเข้าโรงแรม ไปจนถึงร้านอาหารริมทางและร้านนวด
โรงแรมต่างๆ เริ่มจ้างพนักงานที่พูดภาษาจีนกลางได้ หรือใช้แอปพลิเคชันแปลภาษาเพื่อสื่อสารกับแขก
นักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่เน้นทัวร์คุณภาพ
นักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่เริ่มเบนเข็มจากกรุ๊ปทัวร์ราคาประหยัดซึ่งเคยเป็นที่นิยมก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่เราคุ้นตากับภาพนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินตามไกด์ถือธงไปซื้อของ
"ปัจจุบัน กว่า 40% ของชาวจีนที่เดินทางไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก คือกลุ่มที่เดินทางด้วยตนเอง มีการศึกษา และมองหาประสบการณ์ต่างแดนที่แท้จริง" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ China Trading Desk ให้ความเห็น
"นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่ต้องการถูกจัดให้นั่งรถบัส พาไปยังจุดหมายปลายทาง เข้าโรงแรม หรือร้านค้าที่ทุกอย่างให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในประเทศจีน และที่สำคัญ พวกเขายินดีที่จะจ่ายมากขึ้น"
Hava Travel บริษัทนำเที่ยวในเมืองดานังและญาจาง ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากตลาดทัวร์ราคาประหยัดมาสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวบูติกที่ต้องการประสบการณ์ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ
เฉพาะในเดือนสิงหาคมเดือนเดียว บริษัทได้ให้บริการลูกค้าราว 2,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 20% จากช่วงต้นปี
"นักท่องเที่ยวชาวจีนของเรายินดีที่จะจ่ายในราคาที่สูงขึ้น" เหงียน หง็อก เทียน รองผู้อำนวยการทั่วไปของ Hava Travel กล่าว
นอกจากนี้ ที่โรงแรม Mercure Nha Trang Beach Hotel เกือบครึ่งหนึ่งของห้องพักถูกจองโดยนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นประจำ ตามคำกล่าวของ เลือง ฟู ไห่ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขายของโรงแรมในเครือ Accor SA
ไทยเผชิญความท้าทายรอบด้าน
ตัดภาพมาที่ประเทศไทย สถานการณ์กลับตรงกันข้าม ข้อมูลจาก Cirium บริษัทวิเคราะห์การบิน ระบุว่า
ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ จำนวนที่นั่งของสายการบินเที่ยวเดียวจากจีนมายังไทยลดลงกว่า 11% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหลือเพียง 5.1 ล้านที่นั่ง
แม้ว่านักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่จะยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของไทย แต่จำนวนที่ลดน้อยลงได้ส่งผลให้ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 8 เดือนแรกลดลง 7% แม้จะมีการเติบโตที่แข็งแกร่งจากตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกาก็ตาม
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่ารายได้ของธุรกิจโรงแรมไทยจะหดตัวลง 4.5% ในปีนี้ และอัตราการเข้าพักจะลดลง
กรณีการลักพาตัวนักแสดงชาวจีน "หวัง ซิง" ซึ่งถูกหลอกมายังประเทศไทยก่อนจะถูกส่งตัวต่อไปยังเมียนมาโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังคงเป็นภาพจำด้านลบที่ทำให้นักท่องเที่ยวหวั่นใจ
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากได้แสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาของโรงแรม อาหาร และค่าโดยสารรถแท็กซี่ในไทยหลังช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความหวังสำหรับการฟื้นตัวในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย
ดาเมียน เพิร์ช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ของ Agoda เปิดเผยว่า กรุงเทพฯ ยังคงครองแชมป์จุดหมายปลายทางในเอเชียที่นักท่องเที่ยวเลือกกลับมาเยือนซ้ำมากที่สุดบนแพลตฟอร์มของเรา
เขายังมองว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังมีโอกาสฟื้นตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเดินทางอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมกลับมาคึกคัก


