posttoday

เปิดข้อมูล2ด้านสธ.-หมอผู้เชี่ยวชาญโควิดกลับมาระบาดหนักจริง?

10 พฤษภาคม 2568

โควิด-19 ข้อมูลสาธารณสุขชี้แนวโน้มผู้ป่วยลดลง ขณะที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เตือนการระบาดหนัก ตั้งข้อสังเกตความคุ้มการฉีดวัคซีนในปัจจุบัน

สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขชี้ให้เห็นแนวโน้มผู้ป่วยมีแนวโล้มลดลงในสัปดาห์ล่าสุด และย้ำว่าโรคได้กลายเป็นโรคประจำถิ่น ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนก แต่ยังคงต้องระมัดระวังและปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน

ขณะที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่าง ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ เตือนถึงการระบาดที่ยังคงมีอยู่ แต่ตั้งข้อสังเกตถึงความคุ้มค่าของการฉีดวัคซีนในปัจจุบัน เนื่องจากสายพันธุ์เปลี่ยนแปลงไปและประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อลดลง โดยเน้นย้ำความสำคัญของการป้องกันการแพร่ระบาดด้วยมาตรการสุขอนามัยส่วนบุคคล

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 จนถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 53,676 ราย และมีผู้เสียชีวิต 16 ราย

จังหวัดที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงสุดคือ กรุงเทพมหานคร (16,723 ราย) ซึ่งพบการติดเชื้อสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 15 และสูงสุดในสัปดาห์ที่ 18 (27 เมษายน – 3 พฤษภาคม) จำนวน 14,349 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย

สำหรับสัปดาห์ที่ 19 (4 – 10 พฤษภาคม) พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือ 12,543 ราย แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการลดลงของผู้ติดเชื้อรายใหม่

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากการแพร่ระบาดที่สัมพันธ์กับกิจกรรมและการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก รวมถึงปัจจัยด้านฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่จะมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 

อย่างไรก็ตาม โรคโควิด-19 ได้กลายเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากปัจจุบันแม้จะติดเชื้อง่าย แต่อาการรุนแรงน้อย พร้อมเน้นย้ำให้ประชาชนระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

คำแนะนำเมื่อสงสัยติดเชื้อโควิด-19  

  • หากมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ให้ตรวจ ATK ทันที
  • หากผลเป็นบวก ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น แยกของใช้ส่วนตัว หากจำเป็นต้องออกจากที่พัก ให้เข้มงวดมาตรการเว้นระยะห่าง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย
  • หากมีอาการเล็กน้อยแต่ตรวจ ATK ไม่ได้ ให้หลีกเลี่ยงที่สาธารณะ หากจำเป็นต้องไป ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
  • หากมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ให้รีบไปพบแพทย์
  • งดหรือหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง 608 หากเลี่ยงไม่ได้ ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

หมอยง เตือนการระบาดโควิด-19 แค่ชี้วัคซีนอาจไม่คุ้มค่า

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างมาก ระบุว่า โรคที่ป้องกันได้ควรป้องกัน แต่มีหลายวิธี ทั้งการล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงที่ชุมชน วัคซีนเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

ศ.นพ.ยง กล่าวว่า ในระยะแรกโควิด-19 มีความรุนแรงและอัตราเสียชีวิตสูง แต่ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อและวัคซีน ทำให้ความรุนแรงของโรคลดลง เปรียบเทียบได้กับไข้หวัดใหญ่ ผู้ติดเชื้อจำนวนมากมีอาการน้อย ยกเว้นผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอหรือมีโรคประจำตัว

แม้ว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะป้องกันการติดเชื้อได้ประมาณ 40-60% และใช้มานาน มีราคาถูก อาการข้างเคียงต่ำ แต่ยังแนะนำให้ฉีดในกลุ่มเสี่ยง ในขณะที่วัคซีนโควิดมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เร็ว ทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อน้อย ราคาแพงกว่ามาก และมีอาการข้างเคียงมากกว่า ดังนั้น โดยส่วนตัวจึงไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิดในปัจจุบันเมื่อพิจารณาถึงความคุ้มทุนและประโยชน์ที่ได้ เนื่องจากโรคลดความรุนแรงลงแล้ว แต่หากป่วยควรรีบรักษาเพราะมียาที่มีประสิทธิภาพ

ศ.นพ.ยง ชี้ว่า ฤดูกาลระบาดของโควิด-19 เริ่มตั้งแต่สงกรานต์และจะมากขึ้นเมื่อเปิดเทอม เนื่องจากปีนี้ฝนมาเร็ว ทำให้การระบาดมีผู้ป่วยมากกว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัดเจนจากจำนวนผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาล

สายพันธุ์ที่พบส่วนใหญ่ขณะนี้คือ XEC ซึ่งเป็นหลานเหลนของโอมิครอน และความรุนแรงของโรคลดลง ผู้ที่เคยเป็นแล้วสามารถเป็นซ้ำได้อีก และส่วนใหญ่อาการน้อยแต่แพร่กระจายได้

อัตราการเสียชีวิตลดลงมาก น่าจะอยู่ในระดับเดียวกับไข้หวัดใหญ่ แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลจะมากกว่าปีที่แล้ว แต่อัตราการเสียชีวิตในช่วงเวลาเดียวกันกลับน้อยกว่า ฤดูการระบาดคาดว่าจะยาวไปถึงเดือนกรกฎาคม สิงหาคมจึงจะเริ่มลดลง

สำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงดี การรักษาเป็นการรักษาตามอาการ เช่นเดียวกับโรคทางเดินหายใจทั่วไป ยกเว้นผู้สูงอายุเกิน 70 ปี หรือมีโรคประจำตัว ควรพบแพทย์เพื่อดูแลรักษาที่เหมาะสม การให้ยาต้านไวรัส Remdesivir อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์

"สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือการป้องกันการระบาด โดยเฉพาะในโรงเรียน โรงงาน หรือที่มีคนหมู่มาก ด้วยการล้างมือ ใช้แอลกอฮอล์ และหากป่วยควรหยุดเรียน ผู้ป่วยทุกคนควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค"