นักท่องเที่ยวอินเดียกับโอกาสและศักยภาพทางการท่องเที่ยวประเทศไทย
อินเดียกลายเป็นตลาดนักท่องเที่ยวสำคัญของไทย ด้วยจำนวนประชากรมหาศาลและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวอินเดียสร้างรายได้มหาศาล ทั้งจากทริปท่องเที่ยว งานแต่งงาน และธุรกิจ MICE ไทยจะคว้าโอกาสนี้อย่างไร?
KEY
POINTS
- ตลาดอินเดียเติบโตสูง : ประชากรมาก กำลังซื้อเพิ่ม ปี 2566 มาไทย 1.6 ล้านคน รายได้ 66,000 ล้านบาท
- หลากหลายและใช้จ่ายดี : แบ่ง 3 ระดับ กลุ่มกลาง-สูงใช้จ่ายสูงถึง 41,250 บาทต่อคน โดยเฉพาะงานแต่งงาน
- โอกาสและความท้าทาย : ไทยต้องดึงดูดต่อเนื่อง จัดการภาพลักษณ์และความสะอาด เช่น กรณีหาดพัทยา
จากกรณีที่ช่วงต้นเดือนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 มีข่าวนักท่องเที่ยวอินเดียกว่า 100 ชีวิตยึดหาดพัทยาเป็นที่นอนสร้างความเดือดร้อนรำคาญ นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวบริเวณนั้นอย่างมาก
จนกระทั่งช่วงวันที่ 8 กพ. ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และตัวแทนสมาคมชาวอินเดียเมืองพัทยา ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเป็นกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาร์ ที่มีลักษณะคล้ายกับชาวอินเดีย
กลุ่มแรงงานเหล่านี้เลือกใช้ชายหาดพัทยาเป็นจุดรวมตัวพักผ่อนหลังเลิกงาน มักจะนั่งดื่ม พูดคุยกันจนดึก
บางรายเมื่อเมามากก็ใช้พื้นที่ชายหาดเป็นที่นอนพัก ก่อนจะแยกย้ายเดินทางกลับไปทำงานในช่วงเช้า
ตัวแทนเมืองพัทยายืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน
นั่นคือข่าวที่เข้าใจผิดและเกิดขึ้นและเชื่อมโยงไปยังนักท่องเที่ยวอินเดีย
วันนี้ โพสต์ทูเดย์จะพาไปทำความรู้จักกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่มาในประเทศไทยจากข้อมูลที่รวบรวมว่า ว่ามีกลุ่มไหนและใครมีศักยภาพในการเข้ามาเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของบ้านเรา
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวอินเดียกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ด้วยจำนวนประชากรที่มากที่สุดในโลก (แซงหน้าจีนในปี 2566) และเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
อินเดียกลายเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย สาเหตุหลักมาจากการเดินทางที่สะดวกขึ้น เช่น
- เที่ยวบินตรงจากเมืองใหญ่และเมืองรองของอินเดีย
- การยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival (VOA) ในบางช่วงเวลา
- ความนิยมในจุดหมายปลายทางของไทยที่เข้าถึงง่ายและมีค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก
ไปเจาะลึกถึงเกรดนักท่องเที่ยวอินเดีย ศักยภาพการใช้จ่าย รูปแบบการเดินทาง จังหวัดยอดนิยม และจำนวนเงินที่ใช้ในประเทศไทย
1. การแบ่งเกรดนักท่องเที่ยวอินเดียที่เข้ามาในประเทศไทย
นักท่องเที่ยวอินเดียที่เดินทางมาไทยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับหลักตามลักษณะการเดินทางและพฤติกรรมการใช้จ่าย ดังนี้:
ระดับล่าง (Budget Travelers)
กลุ่มนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่มีงบประมาณจำกัด มักเดินทางมาเพื่อการพักผ่อนระยะสั้น (Short-haul) โดยเน้นประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น กลุ่ม Millennials อายุ 25-35 ปี ที่มาเที่ยวกับเพื่อนหรือคู่รัก (Honeymoon) กลุ่มนี้มักเลือกที่พักราคาประหยัดและใช้จ่ายในระดับต่ำถึงปานกลาง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60-70% ของนักท่องเที่ยวอินเดียทั้งหมด
ระดับกลาง (Mid-tier Travelers)
กลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงขึ้น มักเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่มาเพื่อท่องเที่ยวและสัมผัสวัฒนธรรมไทย เช่น การเยี่ยมชมวัดหรือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ กลุ่มนี้มักพักในโรงแรมระดับ 3-4 ดาว และมีการใช้จ่ายในระดับปานกลางถึงสูง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20-30%
ระดับสูง (Luxury Travelers)
กลุ่มนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูง มักมาเพื่อจัดงานแต่งงาน (Destination Wedding) หรือท่องเที่ยวแบบหรูหรา เช่น การเข้าพักในรีสอร์ท 5 ดาว หรือการเช่าเรือยอชต์ส่วนตัว กลุ่มนี้แม้จะมีสัดส่วนเพียง 5-10% แต่มีการใช้จ่ายต่อหัวสูงมาก และมักเลือกจุดหมายปลายทางที่มีความเป็นส่วนตัว เช่น ภูเก็ตหรือเกาะสมุย
2. ศักยภาพในการใช้เงินของนักท่องเที่ยวอินเดีย
นักท่องเที่ยวอินเดียมีศักยภาพสูงในการใช้จ่ายในประเทศไทย เนื่องจาก
- จำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 นักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามาในไทยมากถึง 235,857 คน เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ส่วนในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางมาไทยกว่า 1.6 ล้านคน
- พฤติกรรมการใช้จ่าย กลุ่มระดับกลางถึงสูงมีแนวโน้มใช้จ่ายในหมวดที่พัก อาหาร และการช้อปปิ้ง
โดยเฉพาะสินค้าท้องถิ่นและของที่ระลึก นอกจากนี้ กลุ่มระดับสูงยังสร้างรายได้มหาศาลจากการจัดงานแต่งงาน ซึ่งมักมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1-5 ล้านบาทต่องาน
- เปรียบเทียบกับชาติอื่น การใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวอินเดียใกล้เคียงกับนักท่องเที่ยวจีน (ประมาณ 40,000-50,000 บาทต่อทริปสำหรับกลุ่มระดับกลาง)
แต่ข้อได้เปรียบคืออินเดียสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แม้ในช่วง Low Season ซึ่งต่างจากนักท่องเที่ยวจีนที่มักมาในช่วงเทศกาล
ทั้งนี้ศักยภาพ นักท่องเที่ยวอินเดียมีศักยภาพสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากจำนวนประชากรอินเดียกว่า 1,400 ล้านคน
ขณะที่ชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัว ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มการเดินทางออกนอกประเทศในอีก 5-10 ปีข้างหน้า
3. รูปแบบการเดินทางของนักท่องเที่ยวอินเดีย
นักท่องเที่ยวอินเดียส่วนใหญ่เดินทางมาไทยในรูปแบบต่อไปนี้
- การท่องเที่ยวแบบส่วนตัว (Individual/Family Travel)
รูปแบบที่พบมากที่สุด (85%) คือการเดินทางด้วยเที่ยวบินพาณิชย์ปกติ โดยเฉพาะจากเมืองใหญ่ เช่น มุมไบ เดลี และบังกาลอร์ ซึ่งมีการเพิ่มเที่ยวบินตรงสู่กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่
- การจัดงานแต่งงาน (Destination Wedding)
รูปแบบนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มระดับสูง โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต กระบี่ และหัวหิน งานแต่งงานมักมาพร้อมแขก 50-200 คน และใช้บริการโรงแรมหรู ซึ่งบางครั้งมีการเหมาโรงแรมทั้งแห่ง
- เครื่องบินเหมาลำ (Chartered Flights)
แม้ไม่ใช่รูปแบบหลัก แต่พบมากขึ้นในกลุ่มระดับสูงหรือการเดินทางแบบหมู่คณะ เช่น งานแต่งงานหรือทริปบริษัท โดยสายการบินจากอินเดีย เช่น Indigo หรือ SpiceJet มีการเพิ่มเส้นทางบินตรง
- ท่องเที่ยวเชิงธุรกิจและการประชุม (MICE)
กลุ่มนี้นิยมมากรุงเทพฯ และพัทยา เพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้าหรือการประชุมสัมมนา
4. จังหวัดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวอินเดียไปเที่ยวมากที่สุด
จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จังหวัดที่นักท่องเที่ยวอินเดียนิยมมากที่สุด ได้แก่:
1. กรุงเทพมหานคร
เป็นจุดหมายปลายทางหลัก ด้วยแหล่งช้อปปิ้ง วัดวาอาราม และสถานบันเทิงยามค่ำคืน รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติในกรุงเทพฯ ปี 2565 สูงถึง 123,386.46 ล้านบาท (thailand.go.th)
2. ภูเก็ต
ได้รับความนิยมจากกลุ่มที่ต้องการพักผ่อนริมชายหาดและจัดงานแต่งงาน โดยมีเส้นทางบินตรงจากอินเดีย
3. พัทยา (ชลบุรี)
ดึงดูดด้วยสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ และราคาที่ไม่สูง
4. เชียงใหม่
เป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มที่สนใจวัฒนธรรมและธรรมชาติ
5. กระบี่และสมุย
ได้รับความนิยมในกลุ่มระดับสูงที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและทัศนียภาพที่สวยงาม
จำนวนเงินที่นักท่องเที่ยวอินเดียใช้ในไทย
จากข้อมูลของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ปี2566 นักท่องเที่ยวอินเดียสร้างรายได้ให้ประเทศไทยประมาณ 66,000 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยว 1.6 ล้านคน คิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวประมาณ 41,250 บาทต่อทริป (ระยะพำนักเฉลี่ย 7-9 วัน)
เปรียบเทียบกับอดีต
ในปี 2562 (ก่อนโควิด) นักท่องเที่ยวอินเดียใช้จ่ายเฉลี่ย 27,000 บาทต่อคน แสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นักท่องเที่ยวอินเดียเป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายทั้งในแง่ระดับการใช้จ่ายและรูปแบบการเดินทาง
มีศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย จังหวัดยอดนิยมอย่างกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา
ยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นทุกปีและจำนวนนักท่องเที่ยวที่อาจทะลุ 2 ล้านคน
ในอนาคตอันใกล้ อินเดียจึงเป็นตลาดที่ประเทศไทยควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนากลยุทธ์การท่องเที่ยวต่อไป


