"แกเร็ธ เซาธ์เกท" ผู้ปลดล็อกพาอังกฤษเข้าชิงยูโร 2 สมัยติด
ทีมชาติอังกฤษเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2024 เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน การเข้ารอบครั้งนี้สะท้อนบางมุมที่คนทั่วไปอาจมองไม่เห็นความอัจฉริยะในการใช้ แท็กติกส์ แบบไม่มี แท็กติกส์ ของนายใหญ่สิงโตคำราม แกเร็ธ เซาธ์เกท
การเข้ารอบแบบชิงชนะเลิศ ยูโร 2 หนติดต่อกันของทีม "สิงโตคำราม" อังกฤษ ไม่มีความว่าฟลุ้คแน่นอน แม้จะมีเครื่องหมายคำถามจากแฟนบอลและคนดูทั่วโลกว่า เล่นชวนง่วงนอนไม่มีอะไรแบบนี้เข้ารอบมาได้อย่างไร
เซาธ์เกท ใช้แท็กติกส์ที่ไม่มีแท็กติกส์ ตรงนี้สร้างความปวดหัวให้ทีม Scout คู่แข่ง แน่นอนเพราะไม่รู้จะวางแผนรับมือจากตรงไหนก่อนดี
ผลงานของทีมสิงโตคำราม ตั้งแต่นัดแรกมาจนถึงรอบรองชนะเลิศ พวกเขาไม่เคยชนะแบบประทับใจกองเชียร์ ชนะคู่แข่งไม่เกิน 2 ประตู บางเกมเสมอ 0-0 ด้วยซ้ำ แถมก่อนหน้านี้ก็ต้องเล่นถึง 120 นาทีมา 2 เกมติด
ส่วนเกมล่าสุดรอบรองชนะเลิศกับ เนเธอร์แลนด์ ก็โดนยิงไปก่อน และมาเร่งเครื่องตีเสมอแบบน่าฉงนจากการทำงานของ VAR และมาได้ประตูชัยในนาทีสุดท้ายของเกมจาก 2 ตัวสำรองอย่าง โอลี่ วัตกินส์ และได้แอสซิสต์ จากโคล พาลเมอร์
หากเป็นไพ่ เซาธ์เกท จั่วไพ่ติดและเป็นระดับตอง คิงส์ ที่กินรอบวง เขี่ยฮอลแลนด์ตกรอบ จนเข้าไปชิงชนะเลิศในที่สุด
ถึงตอนนี้ชื่อของเซาธ์เกท ไม่มีใครกล้ามองข้ามอีกแล้ว เกมนัดชิงยูโรกับสเปน ทุกอย่างออกได้ 3 หน้า หากอังกฤษได้แชมป์ขึ้นมา ยศอัศวินนำหน้าเซาธ์เกท เป็นเซอร์ แกเร็ธ คงไม่หนีไปไหน และสัญญาใหม่ต้องมาไปจตนถึงบอลโลก 2026
ส่วนสถิติของ เซาธ์เกท คือคนที่นำแสงสว่าง เอฟเอ ของอังกฤษของจริง เพราะเขาเข้ามาคุมทีมนั้น อังกฤษ เข้าชิงรายการเมเจอร์ถึง 2 ใน 4 หนหลังสุด
และนับตั้งแต่ปี 1966 เป็นต้นมานักเตะ “สิงโตคำราม” ก่อนหน้านี้ทำได้แค่ครั้งเดียวตลอด 23 ครั้งทั้งบอลโลกและยูโรรวมกัน
ใครจะประชดประชันการเล่นภายใต้การคุมทีมของเซาทธ์เกทว่าน่าเบื่อก็ช่าง แต่ตัวกุนซือรู้จ๊อบ รู้ศักยภาพของทีม ของแค่จบด้วยแชมป์ทุกอย่างจะเงียบหายไปทันที