เปิดแผนกู้น้ำท่วมภาคใต้ อนุทิน สั่งระดมพล เร่งอพยพ-เยียวยาทันที

 

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุมติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคใต้

 

เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ล่าสุด รวมถึงผลกระทบและแนวทางการแก้ไขปัญหาจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

 

 

สั่งอพยพทันที ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม 

 

นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายเร่งด่วน โดยเน้นย้ำให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรก สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยทันที โดยไม่ต้องรอให้สถานการณ์วิกฤต

 

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ จังหวัด และส่วนราชการต่าง ๆ บูรณาการความร่วมมือระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัย

 

ทั้งรถยกสูง เรือท้องแบน และอุปกรณ์กู้ภัยที่จำเป็น เข้าไปสนับสนุนภารกิจการอพยพ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึงที่สุด

 

 

 

ตั้งโรงครัว-ที่พักพิง ดูแลปากท้องประชาชน 

 

ในส่วนของการดำรงชีพของผู้ประสบภัย นายกรัฐมนตรีได้กำชับไปยังจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทานหรือโรงครัวสนาม เพื่อจัดเตรียมอาหารปรุงสุกใหม่ น้ำดื่มสะอาด ยารักษาโรค และถุงยังชีพ

 

ให้เพียงพอต่อความต้องการ รวมถึงการจัดหาสถานที่พักพิงชั่วคราวที่มีความปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ เพื่อรองรับประชาชนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

 

 

เร่งระบายน้ำ-วางแผนแก้ปัญหาระยะยาว

 

สำหรับการบริหารจัดการมวลน้ำ ได้สั่งการให้กรมชลประทานและ ปภ. พิจารณาจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขังลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด

 

พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการเฝ้าระวังและติดตามข้อมูลปริมาณฝนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถแจ้งเตือนและรับมือสถานการณ์ได้ทันท่วงที

 

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการแผนงานร่วมกับทุกภาคส่วน

 

เพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว มุ่งเน้นการป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบซ้ำซากในปีต่อ ๆ ไป

 

 

ใช้เทคโนโลยีสำรวจความเสียหาย เร่งจ่ายเยียวยา 

 

นายกรัฐมนตรียังได้กำชับเรื่องการเยียวยาหลังน้ำลด โดยสั่งการให้เร่งตรวจสอบความเสียหายโดยนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสำรวจและประมวลผล

 

เพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยากและเร่งรัดกระบวนการจ่ายเงินเยียวยาให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือรวดเร็วที่สุด

 

"ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมแรงร่วมใจระดมกำลังเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในครั้งนี้ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการทำงานของทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและคืนความสุขให้กับพี่น้องชาวใต้โดยเร็วที่สุด" นายกรัฐมนตรีกล่าวทิ้งท้าย