พายุคัลแมกีเข้าอุบลฯ ฝนตกหนักทั่วอีสาน ปรับระบายน้ำแบบขั้นบันได
พายุ “คัลแมกี” เคลื่อนเข้าอุบลราชธานี กรมอุตุฯ คาดฝนถล่ม 7–9 พ.ย. สทนช.-ปภ. รายงานเขื่อนใหญ่ใกล้เต็ม ต้องพร่องน้ำแบบขั้นบันได คุมระดับปลอดภัย
KEY
POINTS
- พายุ “คัลแมกี” เคลื่อนเข้าปกคลุมอุบลราชธานี ก่อนอ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ
- เขื่อนใหญ่ทั่วประเทศมีน้ำรวม 88% เตรียมพร่องน้ำเพิ่มสูงสุดวันละ 60 ล้าน ลบ.ม.
- ปภ.รายงานอุทกภัยยังมีใน 15 จังหวัด บ้านเรือนกระทบกว่า 1.3 แสนครัวเรือน เสียชีวิต 13 ราย
วันนี้ (7 พ.ย. 2568) เวลา 06.55 น. ชาวจังหวัดอุบลราชธานีตื่นเช้าท่ามกลางสายฝนและลมแรงจากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี” ที่เริ่มส่งผลต่อพื้นที่ตั้งแต่ช่วงตีหนึ่งที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณเขตเมืองและใกล้เคียง โรงเรียนหลายแห่งรวมถึงโรงเรียนอุบลพิทยาคมต้องรับมือกับฝนตกต่อเนื่องและลมกระโชกแรงตลอดเช้า
กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า พายุ “คัลแมกี” ซึ่งอ่อนกำลังจากไต้ฝุ่นลงเป็นพายุโซนร้อนขณะอยู่เหนือเมืองกอนตูม ประเทศเวียดนาม จะเคลื่อนเข้าสู่จังหวัดอุบลราชธานีช่วงบ่ายวันนี้ ก่อนอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องระหว่างวันที่ 7–9 พ.ย.
ภาพรวมสถานการณ์น้ำ
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศอยู่ที่ 88% ของความจุ (71,298 ล้าน ลบ.ม.) โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ 81% (47,176 ล้าน ลบ.ม.) เขื่อนใหญ่ส่วนมากอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ต้องเฝ้าระวังการไหลเข้าเพิ่มจากอิทธิพลพายุ โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนอุบลรัตน์
นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการ สทนช. เผยว่า จากคำสั่งของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือฝนหนักในช่วง 7–9 พ.ย. จึงมีมติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบ “ขั้นบันได” ตั้งแต่ 30–60 ล้าน ลบ.ม./วัน เพื่อควบคุมระดับน้ำในเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย โดยคาดว่ามวลน้ำจากเขื่อนจะใช้เวลา 8–9 วันไหลถึงเขื่อนเจ้าพระยา และจะไม่กระทบพื้นที่เหนือเขื่อน
คุณภาพน้ำและการเฝ้าระวัง
สทนช. รายงานคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลักยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง และบางปะกง พร้อมสั่งติดตามสถานการณ์ฝนและน้ำท่าอย่างใกล้ชิดตลอดสัปดาห์
สถานการณ์อุทกภัยทั่วประเทศ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 15 จังหวัด รวม 67 อำเภอ 469 ตำบล 3,003 หมู่บ้าน โดยได้รับผลกระทบกว่า 134,305 ครัวเรือน รวม 478,076 คน เสียชีวิตแล้ว 13 ราย ส่วนใหญ่ในจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร และพระนครศรีอยุธยา
ปภ. และหน่วยงานท้องถิ่นยังคงเร่งระบายน้ำและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมเตือนพื้นที่เสี่ยงลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำป่าสัก และลุ่มน้ำชี–มูล เฝ้าระวังฝนตกหนักซ้ำในระยะนี้
พายุ “คัลแมกี” นำฝนหนักเข้าสู่ภาคอีสานตอนล่าง ขณะที่เขื่อนใหญ่ทั่วประเทศมีน้ำเกือบเต็มความจุ รัฐบาลสั่งบริหารจัดการน้ำเข้ม ปภ.แจ้งเตือนพื้นที่ลุ่มน้ำหลักเตรียมรับฝนระลอกใหม่ในสัปดาห์นี้.
ที่มา: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (คลิ๊ก) , สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (คลิ๊ก)


