ยอดร้านร่วม “คนละครึ่งพลัส” พุ่ง1.2 แสนราย เตือนอย่าหลงลิงก์ปลอม
รัฐบาลเผยยอดผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส” แล้วกว่า 1.23 แสนราย พร้อมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน 20–26 ต.ค. นี้ เตือนระวังมิจฉาชีพส่งลิงก์ปลอมดูดเงิน
นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ว่าได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการทั่วประเทศอย่างล้นหลาม นับตั้งแต่เปิดลงทะเบียนร้านค้าระหว่างวันที่ 15–17 ตุลาคม 2568
ณ วันที่ 17 ตุลาคม เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนสำเร็จแล้ว 123,960 ราย แบ่งเป็นร้านค้าเดิม 72,185 ราย และร้านค้าใหม่ 51,775 ราย ขณะที่ยังมีร้านค้าอยู่ระหว่างขั้นตอนสมัครอีก 98,064 ราย โดย 91,917 รายอยู่ระหว่างการกดยอมรับเงื่อนไขโครงการ และอีก 6,147 รายอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบข้อมูล
รองโฆษกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการที่สนใจยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยร้านค้าที่ลงทะเบียนสำเร็จจะเริ่มสแกนรับเงินจากประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
สำหรับประชาชนทั่วไป จะสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ในวันที่ 20–26 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00–22.00 น. และสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกระแสตอบรับของโครงการสูงมาก จึงพบว่ามีมิจฉาชีพพยายามแอบอ้างและส่ง “ลิงก์ปลอม” เพื่อหลอกขอข้อมูลส่วนตัวและดูดเงินจากบัญชีประชาชน รัฐบาลจึงขอให้ประชาชนระมัดระวังและยึดแนวทางของ ตำรวจไซเบอร์ ดังนี้
1.ห้ามกดลิงก์ที่ส่งผ่าน SMS หรือข้อความแปลกปลอม เนื่องจากโครงการรัฐจะไม่ส่งลิงก์ลงทะเบียนใด ๆ
2.อย่าเชื่อเพจหรือบัญชีโซเชียลที่ไม่เป็นทางการ ควรตรวจสอบว่าเป็นบัญชีที่มีเครื่องหมายยืนยัน (✔ Verified)
3.อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน วันเกิด รหัส PIN รหัส OTP หรือข้อมูลบัญชีธนาคาร
4.อย่าเชื่อโทรศัพท์ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือธนาคาร เพราะไม่มีนโยบายโทรขอ OTP หรือให้โอนเงิน
5.ตรวจสอบข้อมูลก่อนแชร์ หากสงสัยให้ติดต่อสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง
นางสาวอัยรินทร์กล่าวย้ำว่า “หากได้รับลิงก์ปลอม ขอให้ตั้งสติและอย่ากดลิงก์เด็ดขาด” พร้อมแนะนำว่า หากเผลอกดลิงก์และเกิดความเสียหาย ให้รีบแจ้งความออนไลน์ได้ที่ https://www.thaipoliceonline.go.th/login หรือโทรสายด่วน 1441 ภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อระงับบัญชีผู้กระทำความผิด และเข้าพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจใกล้บ้านทันที


