posttoday

ศาลพิพากษา คุกตลอดชีวิตมือยิงอดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชากลางกรุง

03 ตุลาคม 2568

ศาลพิพากษา จำคุกตลอดชีวิต จ่าเอ็ม มือยิง "ลิม กิมยา" อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชาเสียชีวิตกลางกรุง พร้อมให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 1.7 ล้านบาท

ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการโจทก์ นางอานน์ มารี อ็องเดร ครูช ภรรยาผู้ตาย เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องพ.จ.อ.เอกลักษณ์ แพน้อย และนายชาคิตหรือชำนาญ บัวปลี จำเลยที่ 1-2 ในคดีที่พ.จ.อ.เอกลักษณ์  ใช้อาวุธปืนยิงนายลิม กิมยา (Lim Kim Ya) สัญชาติกัมพูชา อดีตสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านพรรคกู้ชาติกัมพูชา วัย 74 ปี เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 เวลา ประมาณ 17.30 น.ที่บริเวณวงเวียน 13 ห้าง ย่านถนนข้าวสาร

 

ชั้นพิจารณาจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ สำหรับจำเลยที่ 2 ถูกกล่าวหาช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดเพื่อไม่ให้ต้องโทษ ให้การปฏิเสธ

 

โดยศาลมีคำพิพากษาสรุปว่า พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมารับฟังได้เป็นที่พอใจปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย โดยมีเจตนาฆ่าผู้ตายให้ถึงแก่ความ ตายอันเป็นการไตร่ตรองไว้ก่อน

 

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ ประหารชีวิต, ฐานมีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่นและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้ รับใบอนุญาต จำคุก 8 เดือน และฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมาย หลายบท ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 6 เดือน

 

จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงให้จำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิตสถานเดียว และริบของกลาง กับให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วม เป็นเงิน 1,790,599 บาท พร้อมดอกเบี้ย อัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันยื่นคำร้อง (วันที่ 30 กันยายน 2568) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ร่วม

 

สำหรับ จำเลยที่ 2 ได้ความจากทางนำสืบของโจทก์ว่าจำเลย ที่ 2 มีอาชีพขับรถรับจ้าง เมื่อจำเลยที่ 1 ว่าจ้างให้ไปส่งที่ ต.คลองหาด อ.สระแก้ว จ.สระแก้ว การโทรศัพท์หากันนัดหมายสถานที่จึงเป็นเรื่องปกติ โดยจำเลยที่ 2 คิดค่าว่าจ้าง 4,500 บาท ก็เป็นราคาที่สมเหตุสมผล จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ซึ่งพยานหลักฐานโจทก์เท่าที่นำสืบมาจึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังลงโทษจำเลยที่ 2 ได้จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 2

ข่าวล่าสุด

เอาบ้าง! Huawei ส่งสมาร์ทโฟนบางเฉียบ ชน iPhone Air แต่ราคามิตรภาพ