กสทช. บุกรวบ "โดรนเถื่อนล็อตใหญ่" ซุกสมุทรปราการ เร่งสอบใบอนุญาต
กสทช. ผนึกกำลัง CIB เข้าตรวจค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน-ยุทโธปกรณ์ไฮเทคเพียบ พบเจ้าของเป็นชาวสิงคโปร์ เร่งสอบขยายผล
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.)
ได้ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ หลังสืบทราบว่าอาจมีการครอบครองเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบและอายัดของกลางจำนวนมาก ประกอบด้วย:
- อากาศยานไร้คนขับ (โดรน)
- อุปกรณ์สำหรับตรวจจับและต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ
- รถยนต์สำหรับตรวจสอบคลื่นความถี่
ขณะนี้อุปกรณ์ทั้งหมดถูกอายัดไว้เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน กสทช. อย่างละเอียด
นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช. กำลังเร่งประสานงานไปยังกรมศุลกากรเพื่อตรวจสอบความถูกต้องในการนำเข้าอุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจนับจำนวนของกลางทั้งหมด
เร่งสอบสวน-ขยายผล
นายไตรรัตน์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเจ้าของบริษัทเป็นบุคคลสัญชาติสิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันยังพำนักอยู่ในต่างประเทศ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสอบสวนผู้ดูแลบริษัทซึ่งเป็นคนไทยไปก่อน
ทั้งนี้ ของกลางแต่ละชิ้นจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากมีข้อมูลว่าอุปกรณ์บางส่วนบริษัทได้ทำการประกอบขึ้นเอง และบางส่วนเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ
ชี้ชัดโทษหนัก ฝ่าฝืน พ.ร.บ. วิทยุคมนาคม
การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มาตรา 6 ที่ห้ามมิให้ผู้ใด ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
หากพบว่ามีความผิดจริง จะต้องรับโทษตาม มาตรา 23 คือ ระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
"สถานการณ์ขณะนี้มีความอ่อนไหว สำนักงาน กสทช. พร้อมสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานความมั่นคงในทุกมิติเพื่อประโยชน์ของชาติ จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากช่องทางสื่อสารที่เป็นทางการ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยุทโธปกรณ์" นายไตรรัตน์กล่าวทิ้งท้าย


