สรวงศ์ ชี้ "จีนหายทั้งโลก" ไม่ใช่แค่ไทย ดึงตลาดใหม่สร้างสมดุล

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยครึ่งปีหลัง มุ่งสร้างสมดุลนักท่องเที่ยวจากทุกภูมิภาค ชดเชยตลาดจีนที่หดตัวทั่วโลก

 

พร้อมปรับ KPI เน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ใช้จ่ายสูงและอยู่นานขึ้น ผนึกคมนาคมกระจายนักท่องเที่ยวสู่เมืองรอง ตั้งเป้าดันรายได้รวมสู่ 3.5 ล้านล้านบาท

 

ภายในงาน “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก Unlocking Thailand Future” ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องบอลรูม 1-2 ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

 

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้แสดงทัศนะต่อสถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยยอมรับว่า

 

การลดลงของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นตลาดหลัก ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยที่พึ่งพิงตลาดนี้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม นายสรวงศ์ชี้ว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น

 

"จากการเดินทางไปเวียดนามและได้พูดคุยกับผู้บริหารสายการบินเวียตเจ็ท ก็ได้รับการยืนยันว่านักท่องเที่ยวจีนไม่ได้ย้ายไปเวียดนาม

 

แต่หายไปจากตลาดโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจไทยพอสมควร เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่ลงทุนกับตลาดจีนไปเยอะ" นายสรวงศ์กล่าว

 

 

อย่างไรก็ดี วิกฤตดังกล่าวได้สร้างโอกาสใหม่ๆ โดยมีนักท่องเที่ยวจากตลาดอื่นเข้ามาทดแทนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะตลาดระยะไกล (Long-haul) และตลาดใหม่ที่มีการเติบโตสูง เช่น:

 

• อิสราเอล: เติบโตขึ้นเกือบ 70% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

 

• สหราชอาณาจักร (UK): เติบโตขึ้นเกือบ 30%

 

• สหรัฐอเมริกา, อิตาลี: มีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

• อินเดีย: หลังจากปีที่แล้วสร้างสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.1 ล้านคน ในปีนี้เพียงครึ่งปีแรกก็มีจำนวนเกือบล้านคนแล้ว

 

นายสรวงศ์เน้นย้ำว่า รัฐบาลได้ปรับเปลี่ยนตัวชี้วัด (KPI) ด้านการท่องเที่ยว โดยไม่ได้มุ่งเน้นที่ปริมาณ (Quantity) ของนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลกับคุณภาพ (Quality) มากขึ้น

 

ซึ่งหมายถึงการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่พำนักในประเทศไทยนานขึ้นและมีการใช้จ่ายต่อหัวสูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับกลุ่มนักท่องเที่ยวระยะไกลที่เพิ่มขึ้น

 

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 รัฐบาลได้เตรียมแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้วงเงินงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท โดยมีเป้าหมายหลักดังนี้:

 

• ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง: เน้นการกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยทำงานร่วมกับกระทรวงคมนาคมอย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักไปยังเมืองรอง

 

• ทำให้ไทยเที่ยวได้ทั้งปี: ผลักดันนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการลบภาพฤดูกาลท่องเที่ยว (Seasonal) เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเยือนประเทศไทยได้ตลอดทั้งปี

 

• ดึงดูดอีเวนต์ระดับโลก: เดินหน้าโครงการ "Amazing Thailand Grand Tourism" เพื่อนำกิจกรรมและการแสดงระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว

 

"มั่นใจว่าครึ่งปีหลังเรายังมีอะไรอีกมากมายที่จะนำเสนอให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นความหวังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างแน่นอน" นายสรวงศ์กล่าวทิ้งท้าย

 

ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะมีการแถลงแผนการดำเนินงานและมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันจันทร์ที่จะถึงนี้